สัพเพเหระในอเมริกา

การเปิดบัญชีธนาคารและการทำบัตร ATM ในอเมริกา

 

Bank In America

มีหลายคนสงสัยนะค่ะว่า เปิดบัญชีในอเมริกาทำอย่างไร ควรเลือกธนาคารไหน เลือกเปิดบัญชีแบบไหนดี และต้องแสดงเอกสารอะไร วันนี้เรามีคำตอบให้ค่ะ

เราสามารถเปิดบัญชีธนาคารในอเมริกาได้อย่างง่ายดาย ค่อนข้างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ยุ่งยากอย่างที่หลายคนคิด แต่สำหรับคนที่มาอเมริกาใหม่ๆ คงคิดว่าไม่ง่ายเลยใช่มั้ยค่ะ สำหรับการที่ต้องเผชิญกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ที่แต่ละคนดูเนี๊ยบๆทั้งนั้น  บางคนประหม่าคิดว่าเราอาจจะฟังเค้าไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องกลัวค่ะ เจ้าหน้าที่ธนาคาร เค้าฝึกมาเพื่อบริการลูกค้าทุกคนนะคะ เรากำลังจะเป็นลูกค้ารายใหม่ดังนั้นอย่ากลัวค่ะ อาจหาเพื่อนหรือคนรู้จักไปเป็นเพื่อนก็ได้ เพื่อให้รู้สึกมั่นใจและไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร
เราสามารถไปติดต่อด้วยตนเองที่ธนาคาร หรือจะเปิดบัญชีออนไลน์ แล้วค่อยเอาเงินไปเข้าเอทีเอ็มก็ได้ จะเลือกธนาคาไหนก็คงต้องขึ้นอยู่กับความสะดวก เช่น ตู้ ATM มีเยอะหาง่าย มีสาขาอยู่ใกล้ที่พัก หรือดอกเบี้ยดี โอนเงินไม่เสียค่าธรรมเนียม มีสมุดเช็คให้ฟรี หรือ บางธนาคารมีโปรโมชั่นจ่าย 50 ดอล ให้กับลูกค้าใหม่ด้วย

การเปิดบัญชีธนาคารที่อเมริกา

มีสองบัญชีหลักๆ ที่ทำกันคือ บัญชี Checking Account และบัญชี Saving Account
Checking Account

1. บัญชี Checking Account
เป็นบัญชีออมทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ยหรือบางธนาคารจะมีดอกเบี้ยให้เล็กน้อย บัญชีประเภทนี้จะไม่มีสมุดเช็คให้ แต่จะมีสมุดเล่มเล็กๆ อีกหนึ่งเล่ม เพื่อให้นักเรียนบันทึกเงินเข้าออกในบัญชีทุกครั้งที่เขียนเช็ค เพื่อที่จะได้รู้ว่าเงินในบัญชีเหลือเท่าไหร่

วิธีนี้ได้รับความนิยมสำหรับคนที่ไม่พกบัตรเครดิต แต่สำหรับนักเรียนต้องระวังปัญหาเรื่องเช็คเด้ง หากเขียนเช็คออกโดยไม่ติดตามการใช้ทุกครั้งที่จ่ายไป  เพราะหากเช็คเด้งธนาคารและร้านค้าจะชาร์จค่าธรรมเนีย มทันที

นอกจากนี้นักเรียนยังสามารถเลือกใช้แบบเป็นเดบิตการ์ดเพื่อใช้รูดซื้อของได้ไม่จำกัดครั้งในแต่ละเดือนโดยไม่ถูกจำกัดว่าจะต้องมีเงินคงเหลืออยู่ในบัญชีเท่าไหร่

2. บัญชี Saving Account

เป็นบัญชีออมทรัพย์แบบมีดอกเบี้ยให้ด้วย แต่ทางธนาคารมีข้อกำหนดว่าจะต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ หากเงินเหลือต่ำกว่าที่กำหนดจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการฝากเงินด้วย  บัญชีประเภทนี้นักเรียนก็สามารถขอใช้ เดบิตการ์ดได้เช่นกัน แต่ทางธนาคารจะมีการกำหนดจำนวนครั้งในการรูดซื้อสินค้า

นอกจากนี้เวลาไปเปิดบัญชีควรแจ้งกับทางธนาคารหรือแสดงบัตรนักเรียนด้วย เพื่อที่ทางธนาคารจะได้ออกเป็นบัญชีสำหรับนักเรียนให้ ซึ่งจะช่วยให้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมต่างๆ

ก่อนทำการเปิดบัญชีควรสอบถามเงื่อนไขต่างๆของบัญชีแต่ละประเภทให้แน่ใจก่อน และบางธนาคารจะส่งสมุดเช็คและบัตร ATM มาให้ทีหลังตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ อีกทั้งควรถามระยะเวลาในการส่งด้วย เผื่อเกินกำหนดที่ธนาคารแจ้งไว้แล้วแต่ยังไม่ได้รับ  เราจะได้สามารถติดตามทวงถามจากธนาคารได้ค่ะ

ในกรณีที่เป็นนักเรียนเอกสารที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชี

  •  บัตรที่มีรูปถ่าย เช่น ใบขับขี่ของอเมริกา (ถ้ามี) หรือ บัตรนักศึกษาของโรงเรียนที่ศึกษาอยู่
  •  พาสปอร์ตของประเทศไทย
  •  I-20
  •  เงินสด หรือ ถ้ามีบัตรเงินสด (debit card) ของธนาคารอื่นในอเมริกาก็สามารถใช้ได้

ในกรณีที่เป็นนักออแพร์เอกสารที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชี

  •    SSN (Social Security Number)
  •    พาสปอร์ตของประเทศไทย และ DS-2019
  •    เงินสด
  •    อาจต้องแสดงเอกสารเกี่ยวกับออแพร์ด้วย

       นอกจากน้องๆ ออแพร์ต้องมีบัญชีธนาคารไว้เก็บเงินแล้ว น้องๆยังต้องการจดหมายจากธนาคารที่จ่าหน้าซองซึ่งระบุชื่อและที่อยู่ปัจจุบันของเรามาเป็นหลักฐานยืนยันที่อยู่ (Proof of address) ในการขอทำใบขับขี่ด้วย

ในกรณีบุคคลทั่วไปเอกสารที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชี

  •  SSN (Social Security Number)
  • Green card และ จดหมายที่มีชื่อที่อยู่ของเราบนหน้าซอง
  • Driver’s license หรือ State ID
พอเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารเสร็จ ก็จะปรินท์แบบฟอร์มมาให้เราเซ็น พร้อมกับให้เราตั้งรหัสเอทีเอ็ม เสร็จแล้วก็บอกเราว่า เอทีเอ็มจะส่งถึงบ้านภายในเวลาสองสัปดาห์ เมื่อได้บัตรมาแล้วสามารถเปิดใช้งาน (Activated) ได้ โดยการโทรไปยังหมายเลขที่แปะไว้ในบัตร หรือ อาจจะนำไปใช้กดเงินที่ตู้ ATMได้เลย ก็ถือเป็นการเปิดใช้งานแล้วค่ะ
ส่วนสมุดธนาคารแบบบ้านเราที่อเมริกาไม่มีให้นะค่ะ  เค้าไม่ใช้กัน คนที่นี่เค้าเช็คยอดเงินกันแบบ Online ค่ะ สามารถเข้าไปดูยอดหรือทำธุรกรรมบางอย่างได้ตลอด 24 ชม แหมดีจังเลย!!
ที่อเมริกานั้น นอกจากฝากเงินได้ดอกเบี้ยแล้ว ยังต้องคอยดูแลรักษายอดให้ได้ตามที่กำหนดด้วย ไม่อย่างนั้นจะต้องโดนหักค่าธรรมเนียมฝากเงิน ดังนั้นอาจจะต้องมีการโอนเงินจากบัญชี Checking เข้าสู่ Saving อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน เพื่อป้องกันไว้ก่อน (โชคดีที่เมืองไทยยังไม่มีเงื่อนไขแบบนี้)
อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำว่าคุณควรสอบถามจากเพื่อนหรือคนรู้จักในอเมริกา หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของธนาคารที่คุณต้องการเปิดบัญชีจะดีที่สุดค่ะ

 


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *