อาหารสุดอันตราย ที่คนอเมริกันชอบกิน
มาอยู่อาศัยบ้านนี้เมืองนี้ ยังงั๊ยยังไงก็ต้องได้ลิ้มลองของที่ชาวอเมริกันเค้าว่า “อร่อย” อาหารพวกนี้ ไม่ใช่อะไรอื่นไกลที่ไหน ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหาร Junk food หรืออาหารขยะนั่นเอง
จริงๆแล้วส่วนประกอบของอาหารเหล่านี้ก็ไม่ได้ถึงกับย่ำแย่อะไรนัก เช่น พวกเบอร์เกอร์ม ฮ็อตดอก ก็ยังมีผักใบเขียว หอมใหญ่ หรือ มะเขือเทศมาแซมๆ ให้ได้มีคุณค่าทางอาหารอยู่บ้าง แต่แล้ว เมื่อคนขาย ต้องการดึงดูดลูกค้าด้วยการเพิ่ม “รสอร่อย”ให้มากขึ้น ผลก็คือ ส่วนประกอบอันตราย เช่น น้ำมัน น้ำตาล เนื้อติดมัน หรือ เกลือ ก็ได้ถูกเอาใส่ไม่ยั้ง แถมยังลดปริมาณของที่มีประโยชน์อย่างผัก ต่างๆลงไปอีก
คนกินก็อร่อยไป แต่หารู้ไม่ ของที่เพิ่งกลืนลงท้องไป ร่างกายจะได้รับประโยชน์ไม่มากนัก แถมยังต้องทำงานหนัก เพื่อขับไล่ของไม่ดีออกไปอีก!
แต่จะว่าไป อาหารสุดอันตรายเหล่านี้ก็อร่อยมากเลยทีเดียวนะค๊า แม้แต่แอดมินเองยังอดใจไม่ค่อยจะอยู่ วันนี้ก็เลยขอนำเสนอ “อาหารสุดอันตราย” ที่เจอประจำในอเมริกา มาให้ดูก่อนนะคะ จะได้เตรียมตัว เตรียมใจ อดทนต่อความอร่อยไว้บ้างค่า
1.แฮมเบอร์เกอร์
ขึ้นชื่อว่าเป็นแฮมเบอร์เกอร์แล้วก็เป็นอาหารขยะอันดับแรกที่ผู้คนในสหรัฐอเมริกา มักจะกินกันเป็นอาหารหลักกันเลยก็ว่าได้ แต่หารู้ไม่ว่าอาหารจำพวกนี้นี่แหละค่ะที่จะเป็นอาหารที่มีความอันตราย เพราะมันไม่ได้ทำมาจากเนื้อวัวแท้อะไรอย่างที่เขาพูดกันหรอกค่ะ แต่มันทำมาจากเศษเนื้อที่ไม่ได้ใช้แล้วหรือพวกเศษชิ้นส่วนของสัตว์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่เอามาบดผสมรวมกัน และยังใช้สารเคมีสีแดงย้อมให้เนื้อกลับมาดูสด เพราะก่อนหน้านี้ เนื้อประเภทนี้เป็นพวกเนื้อที่เคยผ่านการกำจัดแบคทีเรียมาก่อนจนทำให้เนื้อเกือบเน่า มีสีเขียวชวนอ้วก เลยต้องใช้วิธีย้อมสีนั่นแหละค่ะ
ว่ากันว่าเนื้อแฮมเบอร์เกอร์เกิดจากการนำเอาเนื้อส่วนที่เสียหรือไม่ได้ใช้งานแล้วในโรงฆ่าสัตว์มาเป็นวัตถุดิบ กีบเท้า กระดูก จมูก เขา และส่วนอื่นๆ ล้วนแล้วเป็นส่วนประกอบของเนื้อแฮมเบอร์เกอร์ทั้งสิ้น แถมยังใส่สารปรุงรส MSG หรือ โมโนโซเดียมกลูตาเมตเข้าไปอีกด้วย ทำให้อาจเกิดอาการแพ้และปวดหัวอย่างรุนแรง และแน่นอนว่า ทำให้คนกินอ้วนขึ้น!
2. ฮ๊อทดอก
ฮ๊อทดอกเองก็ไม่ต่างไปจากเนื้อแฮมเบอร์เกอร์เลยค่ะ เพราะมีรากฐานการผลิตมาจากเศษเนื้อที่ไมได้ใช้งานในโรงฆ่าสัตว์เช่นเดียวกันเลยครับ เนื้อประเภทนี้เป็นพวกเนื้อที่เคยผ่านการกำจัดแบคทีเรียมาก่อนจนทำให้เนื้อเกือบเน่า มีสีเขียวชวนอ้วก เลยต้องใช้วิธีย้อมสีนั่นแหละค่ะ ว่ากันว่าเนื้อฮ๊อทดอกเกิดจากการนำเอาเนื้อส่วนที่เสียหรือไม่ได้ใช้งานแล้วในโรงฆ่าสัตว์มาเป็นวัตถุดิบ กีบเท้า กระดูก จมูก เขา และส่วนอื่นๆ ล้วนแล้วเป็นส่วนประกอบของเนื้อฮ๊อทดอกทั้งสิ้น แถมยังใส่สารปรุงรส MSG หรือ โมโนโซเดียมกลูตาเมตเข้าไปอีกด้วย ทำให้อาจเกิดอาการแพ้และปวดหัวอย่างรุนแรง และแน่นอนว่า ทำให้คนกินอ้วนขึ้น
ฮ๊อทดอกมีสารอยู่ชนิดหนึ่งที่อาจจะทำให้เราเจอกับคำว่าการเป็นโรคมะเร็งได้นั่นก็คือสารไนไตรท์ มันมีโอกาสที่จะทำให้เรากลายเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งในกระเพราะอาหาร และมะเร็งในเม็ดเลือด เนื้องอกในสมองหรือแม้กระทั่งมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ
3. เฟรนช์ฟราย
เฟรนช์ฟราย เป็นอาหารที่มักจะเสิร์ฟพร้อมกับแอมเบอร์เกอร์ แต่ก็เป็นอาหารที่ติดอันดับอาหารอันตรายเช่นกัน เพราะมันฝรั่งทอดพวกนี้จะทอดกันที่อุณหภูมิสูง และจะทำให้มีสารเคมีที่มีสารก่อโรคมะเร็งและทำลายระบบประสาทของมนุษย์ที่เรียกว่าAcrylimides แฝงอยู่ น้ำมันที่ใช้ทอดเฟรนช์ฟรายบางครั้งก็เป็นน้ำมันเก่าที่ใช้ทอดติดต่อกันหลายอาทิตย์ จะทำให้เกิดออกซิไดซ์
4. โอริโอ คุกกี้
หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกับโอริโอนะค่ะ เพราะเป็นขนมประเภทคุกกี้ที่ขายดีนะค่ะ คุกกี้ยี่ห้อนี้ขายดีมากที่ประเทศสหรัฐ อเมริกา แต่ต้องบอกว่าส่วนประกอบของการผลิตโอริโอนั้นดูแล้วน่าจะไม่ค่อยเข้าทีเท่าไหร่ เพราะมีจำนวนปริมารน้ำตาลมากถึง 23 กรัม ขณะที่ช็อกโกแลตแท้นั้น มีอยู่เพียงนิดเดียว อีกทั้งยังเป็นอาหารที่แทบจะไม่ได้ให้พลังงานที่มากเท่าไหร่เลยด้วยซ้ำ อีกทั้งยังมีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งอีกด้วย
5. พิซซ่า
พิซซ่าเป็นอาหารพื้นเมืองของประเทศอิตาลีที่เข้ามาตีตลาดในอเมริกา แต่อาหารประเภทนี้เกิดจากการตัดแต่งพันธุกรรมของส่วนประกอบอาหารทั้งหมด 5 ชนิดคือ เนยแท้ที่ใช้เพียง 10% หรือเพียงนิดเดียวเท่านั้น ขณะที่แป้งก็ยังเป็นการฟอกสีให้ขาว ทำให้พวกสารอาหารอย่างวิตามินและเกลือแร่ถูกขจัดออกไป แต่ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์เข้าไปแทน ขณะที่ซอสมะเขือเทศก็ทำด้วยสารที่คล้ายมะเขือเทศและสร้างยาฆ่าแมลงได้ด้วยตัวของมันเอง ต่อมาก็คือการนำเอาแป้งสาลีประเภทที่เป็นแป้งตัดแต่งด้วยพันธุกรรม ส่วนน้ำมันฝ้ายที่เป็นส่วนประกอบ ก็ไม่ได้เป็นน้ำมันจากพืช มันเป็นน้ำมันที่เคยผ่านการพ่นสเปรย์ยาฆ่าแมลงมาก่อนด้วย พิซซ่าจึงจัดว่าเป็นอาหารอันตรายมากๆ
6. น้ำอัดลม
น้ำอัดลมขึ้นชื่ออยู่แล้วว่ามีแก๊สอยู่มาก และยังมีความเป็นกรดเป็นด่างอยู่มากอีกด้วย น้ำอัดลมจะเป็นสิ่งที่จะเป็นตัวชะล้างแคลเซียมออกจากกระดูกของท่าน มันเป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน และไม่เพียงแค่นั้น สีที่ใช้เติมในน้ำอัดลม เป็นสารเคมีก่อมะเร็ง
7. ชิ้นไก่ทอดเนื้อนุ่มไร้กระดูก
พวกไก่ทอดประเภทไก่ไม่มีกระดูกหรือพวกไก๊อปเองก็เป็นที่นิยมในอเมริกาอย่างมาก แต่ต้องบอกว่าการผลิตไก่ประเภทนี้เป้นการเอาพวกเศษเนื้อไก่ที่ไม่ใช้แล้วมาผลิตนั่นเองแหละค่ะ ไก่ทอดประเภทนี้ มีสารปรุงรส MSG หรือ โมโนโซเดียมกลูตาเมตเข้าไปอีกด้วย ทำให้อาจเกิดอาการแพ้และปวดหัวอย่างรุนแรง และแน่นอนว่า ทำให้คนกินอ้วนขึ้น นอกจากนี้แล้วยังมีสารฟอสเฟตประกอบอยู่ด้วย ทำให้ร่างกายเกิดเป็นกรด
8. ไอศกรีม
ไอศกรีมเย็นๆแบบนี้ หารู้ไม่ว่ามีไขมันอยู่สูงมาก มีไขมันมากกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีคาร์โบไฮเดรตอยู่มาก เกือบ 40% และการที่กินของพวกนี้เข้าไปมากๆจะทำให้ปริมาณน้ำตาลที่กินเข้าไปมีมากขึ้น และจะทำให้เราขาดน้ำและกระหายน้ำ ขณะเดียวกัน จะทำให้ผิวหนังเราเหี่ยวย่นมากขึ้น
9. โดนัท
โดนัทมีส่วนประกอบเป็นแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ซึ่งเกินกว่าอัตราที่ควรบริโภคไขมันในแต่ละวัน และยังมีส่วนประกอบของเกลือโซเดียมที่ทำให้เราขาดน้ำ และน้ำมันที่ใช้ทอด ยังทอดในอุณหภูมิที่สูงจะทำให้มีกลิ่นหืนและมีสารอนุมูลอิสระเกิดขึ้น มันจะทำให้เกิดสารพิษในร่างกาย
10. โปเตโต้ชิพ
ขึ้นชื่อว่าเป็นมันฝรั่งทอดก็ย่อมเป็นอาหารที่มีไขมันจำนวนมาก และยังเป็นอาหารที่เกิดจากการผลิตด้วยมันสำประหลัง การผลิตนั้นจะมีส่วนประกอบประเภทเกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดแคลนน้ำได้ อีกสารในมันฝรั่งทอดยังทำให้ปิดกั้นการดูดซึมของไขมัน ทำให้การดูดซึมแร่ธาตุจากสารอาหาร ที่เรารับประทานเข้าไปได้น้อยลง
บทความที่เกี่ยวข้อง
GoGoAmerica เว็บรวมหลากหลายเรื่องราวน่ารู้ในอเมริกา ทั้ง วัฒนธรรม อาหาร ชีวิตความเป็นอยู่ การหางานในอเมริกา สถานที่เที่ยว สำหรับคนไทยที่มีเป้าหมายในอเมริกาไม่ควรพลาด