ทำไมคนถึงอยากมาอเมริกากันจัง
ถ้าถามว่า ทำไมคนถึงอยากมาอเมริกากันจัง ถ้าจะให้ตอบตามเหตุตามผล ผู้เขียนก็คิดว่าคำตอบคงจะมาจาก คำพูดที่บอกต่อๆกันว่า “The United States is the land of opportunities” หรือ จะให้พูดเป็นภาษาไทย ก็คือ “สหรัฐอเมริกา คือ ดินแดนแห่งโอกาสและความสำเร็จ” (ต้องขอต่อเพิ่มคำแปลอีกนิดหน่อยนะคะ)
เมื่อได้ยินหรือได้อ่านอย่างนี้แล้ว หลายคนคงอยากจะรู้ว่ามีโอกาสอะไรบ้างในสหรัฐอเมริกา จากประสบการณ์ตรงนะคะ ขอบอกว่าโอกาสในอเมริกามีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าโอกาสทางด้านการศึกษา หรือโอกาสทางด้านอาชีพค่ะ นี่ยังไม่นับโอกาสที่จะสร้างสมประสบการณ์ให้เป็นกำไร กับชีวิตอีกต่างหากนะคะ
โอกาสทางการศึกษา
ส่วนตัวแล้วตัดสินใจมาอเมริกาก็เพื่อโอกาสทางการศึกษา และเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถของตัวเองเพื่อการแข่งขันในตลาดงานในเมืองไทยค่ะ เริ่มจากเมื่อ 13 ปีก่อน ทำงานในเมืองไทยได้เงินเดือน ก็ประมาณหมื่นกว่าบาท ผ่อนบ้านผ่อนรถค่ากินค่าใช้ก็หมดแล้ว
บางเดือนได้ทุนบิดามารดาอุปถัมภ์ก็มีเหลือเก็บนิดหน่อย จะหางานใหม่หรือรอเงินเดือนขึ้น ก็เชื่องช้าเหลือเกินเพราะความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ยังไม่ถึง มันก็เลยมาถึงทางแยกของชีวิตัดสินใจมาเรียนต่อ ในสหรัฐอเมริกาและก็ไม่เคยคิดผิดหวัง ในการตัดสินใจในครั้งนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
ความคิดแรก- อยากมาต่างประเทศ
ความคิดแรกที่ตัดสินใจมาเรียนต่อต่างประเทศ ก็คือนอกจากเราจะได้ความรู้ ได้ปริญญาเพิ่มอีกใบแล้ว เราก็ยังได้ภาษาต่างประเทศอีกต่างหาก พูดถึงภาษาต่างประเทศแล้ว ก็เคยถามตัวเองเหมือนกันค่ะว่า เราควรจะสร้างความแตกต่างให้กับตัวเองด้วยการเรียนรู้ภาษาอื่น นอกเหนือจากภาษาอังกฤษหรือเปล่า คิดๆดูแล้วก็เห็นว่าตัวเองคงจะไม่มีงบประมาณและเวลา มากพอที่จะเริ่มต้นภาษาใหม่ หรือจะว่ากันตามตรงคงต้องบอกว่าพรสวรรค์ทางภาษามีจำกัดค่ะ
เลือกอเมริกา
ตอนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศอยู่นั้น ก็มีโอกาสได้คุยกับ ที่ปรึกษาทางคอมพิวเตอร์ของบริษัทที่เคยทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นชาวยุโรปเกี่ยวกับ การเรียนต่อในยุโรปเปรียบเทียบกับการเรียนต่อในอเมริกา เขาก็แนะนำว่ามาเรียนที่อเมริกา คงจะสบายใจกว่า
เพราะชาวอเมริกันเปิดกว้างและเป็นมิตรมากกว่าชาวยุโรปค่ะ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ได้รับฟังมาเท่านั้นนะคะ อาจจะไม่เป็นความจริงทั้งหมดก็ได้ แต่ทั้งนั้นและทั้งนี้ นี่เป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ตัดสินใจแน่นอนที่จะมาเรียนที่อเมริกาค่ะ
เมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ชาวอเมริกันเขาก็เป็นมิตรกับเราดีมากๆ และความเป็นมิตรของคนที่นี่ทำให้เรารู้สึกเป็นกันเองค่ะ ตอนมาถึงใหม่ๆก็มาเรียนภาษาอังกฤษ เพิ่มเติมเพื่อปรับความเคยชินกับสำเนียงของเจ้าของภาษา และปรับฐานของการเขียนรายงานในแบบอเมริกัน (Academic Writing)
มาเหยียบอเมริกา- เจอคนอเมริกัน
ตอนนั้นพักอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัยค่ะ ก็เลยทำให้มีเพื่อนชาวอเมริกันหลายคน เพื่อนๆชาวอเมริกันแต่ละคนก็ ให้ความช่วยเหลือดีมากค่ะ พวกเขาให้ความสนใจเกี่ยวกับประเทศไทยโดยเฉพาะอาหารไทยค่ะ พวกเขามีคำถามต่างๆเกี่ยวกับประเทศไทย และถามเพื่อความรู้ ความเข้าใจในประเทศของเราจริงๆ มันก็เลยทำให้เรารู้สึกดีกับผู้คนรอบข้างและสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ
นอกจากนี้ในศูนย์ภาษายังมีเพื่อน ต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งก็เป็นโอกาสดีที่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้และวัฒนธรรมจาก ประเทศต่างๆในเวลาเดียวกัน
ขอแนะนำเมื่อมาเรียนต่ออเมริกา
ถ้าใครมาเรียนภาษาอังกฤษที่นี่ต้องขอแนะนำนะคะว่าในช่วงแรกๆต้องใช้เวลากับเพื่อนต่างชาติให้มากที่สุด นี่ไม่ได้แนะนำให้ลืมคนไทยหรือความเป็นไทยนะคะ แต่เป็นเพราะว่า มันจะช่วยปรับปรุงภาษาอังกฤษของเราได้เร็วมากขึ้น จากที่ภาษาอังกฤษอ่อนแอก็จะแข็งแรงขึ้น และจากที่แข็งแรงอยู่แล้วก็จะยิ่งดีขึ้นเหมือนกับเป็นเจ้าของภาษาเองเลยล่ะค่ะ
อีกอย่างนะคะ ต้องร่วมกิจกรรมต่างๆที่ โรงเรียนภาษาอังกฤษจัดให้นะคะ ถึงแม้ว่ามันจะเพิ่มค่าใช้จ่าย แต่ก็คุ้มค่าความสนุกและการเรียนรู้ค่ะ นี่แนะนำจากประสบการณ์ตรงเลยนะคะ เพราะเคยเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆทั้งไปเล่นสกี ไปดูพาเรด ไปทัศนศึกษา ไปดูการแข่งขันกีฬา ไปหมดค่ะ สนุกมาก และที่จริงค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่าและสะดวกกว่าไปเองค่ะ
หลังจากเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแล้วก็ได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับความเปิดกว้างของโอกาส ที่มีให้กับประชาชนและผู้อยู่อาศัยในประเทศนี้ค่ะ เริ่มจากโอกาสทางด้านการศึกษาก่อนนะคะ ในสหรัฐอเมริกามีสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรองมากมายทั่วประเทศทั้งของเอกชนและรัฐบาลค่ะ
มหาลัยในอเมริกามีหลักสูตรสาขาหลากหลาย
บางคนอ่านแล้วคงจะตั้งกระทู้ว่าในประเทศไทยก็มีไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน ตรงนี้ขอบอกว่าจริงค่ะ มหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาในบ้านเรามีให้เลือกมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นหลายสถาบันในเมืองไทยของเราก็มีคุณภาพมาตรฐานระดับนานาชาติอีกด้วย แต่ที่บอกว่าโอกาสทางการศึกษานั้น หมายถึงความหลากหลายของสาขาวิชา ที่นักศึกษาในประเทศนี้สามารถที่จะเลือกเรียนได้ตามกำลังความสามารถ เวลา และ งบประมาณค่ะ
ขอยกตัวอย่างนะคะ อย่างเช่นสาขาวิชา Paralegal ถ้าเรียกเป็นชื่อภาษาไทยก็คงจะ ประมาณว่า สาขาผู้ช่วยทนาย หรือ เลขาธิการทางกฎหมายค่ะ สาขาวิชานี้นักศึกษา จบมาก็จะมีหน้าที่ช่วยงานทนายความตามสำนักงานทนายความแต่ขึ้นว่าความเองไม่ได้ค่ะ ผู้ที่สนใจจะเลือกเรียนหลักสูตร 2 ปี หรือ 4 ปีก็ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการ และหลักสูตรของมหาวิทยาลัยค่ะ
ถ้าไม่พอใจก็เลือกสถาบันอื่นได้เพราะใมแต่ละรัฐ แต่ละเมืองมีสถาบันการศึกษา ให้เลือกเยอะมากจริงๆค่ะ นอกจากหลักสูตรนี้แล้ว ยังมีสาขาวิชาอื่นที่ทางสถาบันเสนอหลักสูตร ในลักษณะเดียวกัน เช่น Criminal Justice และอื่นๆอีกมากมาย เอาไว้วันหน้าวันหลังจะหาข้อมูลมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมนะคะ
ทำไมในอเมริกาต้องมีหลายสาขาหลักสูตรให้เรียน
วัตถุประสงค์หลักของความหลากหลายในสาขาวิชาการศึกษานี้ นอกจากจะสามารถ ตอบสนองความต้องการและความสนใจของแต่ละคนแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความชำนาญ หรือความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ทันทีค่ะ เหตุผลก็เพราะว่า สาขาวิชาเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความเชี่ยวชาญให้กับผู้สำเร็จการศึกษา เฉพาะทางและการปฏิบัติงานจริง แทนที่จะรู้กว้างๆแบบครอบจักรวาลหรือแบบทฤษฎีนั่นเองค่ะ
นอกจากโอกาสทางการศึกษาแล้ว การมาอเมริกายังมีโอกาสทางอาชีพอีกค่ะ เหมือนกับที่ใครหลายคนอาจได้ยินว่า มาอเมริกาแล้วได้เงินดี เราจึงขอนำเสนอเรื่อง และข้อมูลแนะนำเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของกิจการในอเมริกา ในคราวถัดไปค่ะ
โอกาสทางอาชีพ- เป็นเจ้าของกิจการในอเมริกา
Author: Supakon, Intercultural Consulting and Services LLC