เทคนิคหางานให้ได้ในอเมริกา
เมื่อตอนที่เขียนเกี่ยวกับคำถามว่าทำงานในอเมริกาเก็บเงินได้มากกว่าทำงานในเมืองไทยจริงหรือไม่ ก็ได้เกริ่นๆไปนิดหน่อยแล้วว่าขึ้นอยู่กับว่าทำงานอะไร ได้รับรายได้เท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้แล้วก็ยังขึ้นอยู่กับนิสัยการจับจ่ายใช้สอยของแต่ละคนอีกด้วย แต่กว่าที่จะเริ่มเก็บสะสมเงินได้เราก็ต้องมีงานทำก่อนใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นคงจะต้องมารู้จักลักษณะตลาดงานในสหรัฐอเมริกากันก่อนค่ะ
เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแห่งโอกาส ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีคนมากมายทั่วโลกพยายามที่จะเข้ามาอยู่ในสหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องการจะหาโอกาสให้แก่ชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา หรือ อาชีพการงาน แต่ก็คงจะไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำ ในปัจจุบันประเทศนี้ก็กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจที่เลวร้ายเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆทั่วโลก รัฐบาลสหรัฐฯกำลังทำการควบคุมงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลอย่างหนัก แม้แต่งบประมาณทหารและการรักษาความมั่นคงแห่งชาติก็ยังถูกตัดลงอย่างมากมาย งานราชการที่ว่ามั่นคงแน่นอนนั้นก็ถูกตัดเวลาการทำงานเพื่อให้ลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ยิ่งไปกว่านั้นประเทศนี้เป็นประเทศที่พึ่งพาและนำเทคโนโลยีมาทดแทนแรงงานคน อีกทั้งงานในระดับแรงงานส่วนใหญ่ก็ถูกส่งออกไปให้ประเทศที่มีค่าแรงงานถูกกว่าก็ยิ่งทำให้จำนวนงานมีน้อยลงมาก ซึ่งก็ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดงานมีสูงขึ้น
ในการรับสมัครงานในระดับพนักงานหรือในบริษัทต่างๆนั้น ขั้นตอนในการกลั่นกรองคนก็คล้ายๆกัน จะแตกต่างกันบ้างก็ตรงที่บางองค์กรหรือบางหน่วยงานใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์บางหน่วยงานจะใช้แรงงานคนในการกลั่นกรองใบสมัครค่ะ โดยทั่วไปแล้วองค์ประกอบสำคัญที่ผู้สมัครจะต้องมีก็คือ cover letter และ resume ค่ะ ในบางบริษัทอาจจะไม่ให้ความสนใจมากนักกับ cover letter แต่บางบริษัทหรือหน่วยงานก็เริ่มกันที่ cover letter เลยล่ะ
ขั้นตอนการกลั่นกรองใบสมัครก็จะเริ่มจากอ่าน cover letter หรือ resume ว่าได้กล่าวถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งหรือไม่ ซึ่งในการแข่งขันสูงอย่างทุกวันนี้การศึกษาอย่างเดียวคงไม่สามารถแข่งขันกับผู้หางานรายอื่นได้ เพื่อให้ได้งานมานั้นเราก็ต้องมีทั้งการศึกษาและประสบการณ์ค่ะ
คราวนี้เราจะมาดูการสมัครงานราชการในสหรัฐอเมริกาหรือที่เรียกว่า Federal Employees กันนะคะ ขั้นตอนก็จะเริ่มจากคุณสมบัติแรกก็คือต้องมีสัญชาติอเมริกันค่ะ ถึงแม้ว่าในประเทศนี้จะมีกฎหมายป้องกันสิทธิ์และความเท่าเทียมกัน แต่ในที่นี้ด้วยเหตุผลทางความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศเขาจึงสามารถระบุสัญชาติของผู้สมัครได้ค่ะ เมื่อผู้สมัครสนใจที่จะสมัครในตำแหน่งไหนก็สามารถสมัครออนไลน์ได้ค่ะ
ซึ่งขั้นตอนนี้ก็เหมือนที่อื่นๆคือการแนบเอกสารต่างๆเช่น resume หรือหลักฐานการศึกษาค่ะ แต่ขั้นต่อไปนี่สิคะที่ค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่น เมื่อผู้สมัครแนบเอกสารแล้วก็ต้องตอบแบบสอบถามค่ะ ซึ่งแบบสอบถามนี้จะถามเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและความสามารถต่างๆ คำถามจะมีตัวเลือกให้ตอบค่ะถ้าผู้สมัครเลือกตัวเลือกที่บ่งบอกว่ามีความสามารถในระดับสูงในหัวข้อนั้น ผู้สมัครจะต้องระบุในช่องที่ให้ไว้ว่างานตำแหน่งไหนใน resume ที่ทำให้คุณมีความสามารถในระดับสูง ถ้าผู้สมัครคนไหนไม่ระบุข้อมูลนี้ผู้สมัครคนนั้นจะถูกปลดชื่อออกจากการสมัครทันทีค่ะ และขั้นตอนในการตรวจสอบแบบสอบถามนี้จะถูกตรวจสอบโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งหมดค่ะ
ระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ตรวจสอบใบสมัครเหล่านี้จะให้ผลออกมาเป็นตัวเลขคะแนน คนที่มีคะแนนมากสุดก็จะถูกใส่ชื่อเป็นชื่อแรกที่จะได้รับการพิจารณาจากหน่วยงานหรือได้รับการเรียกสัมภาษณ์ค่ะ แต่ก่อนที่จะได้คะแนนต่างๆออกมาก็ยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่ระบบคอมพิวเตอร์นี้ได้ถูกตั้งคำสั่งไว้แล้ว คำสั่งหรือ Keyword นี้จะถูกตั้งไว้จากรายละเอียดของงานหรือหน้าที่ความรับผิดชอบในตำแหน่งนั้นๆ
เพราะฉะนั้นเคล็ดลับสำคัญในการสมัครงานก็คือต้องอ่านโฆษณารับสมัครงานให้ละเอียด หา Keyword ที่เป็นตัวกำหนดว่าผู้จ้างงานกำลังมองหาคนที่มีคุณสมบัติอย่างไร จากนั้นก็จะต้องกลับมาตบแต่ง Resume กันนิดหน่อยก่อนค่ะ นี่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องกลับมาโกหกและเปลี่ยน Resume ทั้งหมดนะคะ สิ่งที่สำคัญยังเป็นความซื่อสัตย์ในคุณสมบัติของตัวเองค่ะ แต่ที่บอกว่าตบแต่ง Resume นั้นหมายถึงว่าในแต่ละงานที่เคยทำมา เราเคยทำหน้าที่อะไรที่เหมือนกับในโฆษณารับสมัครงานเขาระบุไว้หรือไม่ จะให้อธิบายอีกแบบหนึ่งก็คือเลือกใช้คำให้เหมือนกับทางผู้จ้างเขาระบุเอาไว้ในโฆษณารับสมัครงานค่ะ เพราะอย่าลืมว่าเวลาเราทำงานตำแหน่งนึงไม่ได้หมายความว่าเรามีหน้าที่เพียงอย่างเดียว และหน้าที่อื่นที่เคยได้รับมอบหมายให้ทำแต่ไม่ใช่หน้าที่ประจำเราก็สามารถนำมาอ้างได้ว่าเราเคยรับผิดชอบงานในลักษณะนั้น โดยเฉพาะถ้ายังสามารถทำงานชิ้นนั้นได้อยู่ยิ่งไม่มีปัญหาค่ะ
ยกตัวอย่างนะคะ เราอาจจะเคยทำงานในตำแหน่งพนักงานการเงิน แต่มีอยู่ครั้งหรือสองครั้งที่จะต้องสอนพนักงานคนอื่นให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทางบัญชีการเงินใหม่ อย่างนี้เราก็ใช้อ้างได้ว่าเราเคยเป็นผู้ฝึกสอนและมีความสามารถในการสอนได้ค่ะ
การสมัครงานโดยเฉพาะงานราชการนั้น ผู้ที่จะได้รับการจ้างงานจะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือจะต้องมีนิสัยการใช้จ่ายที่เป็นที่ไว้วางใจได้และไม่มีปัญหาทางการเงินค่ะ การตรวจสอบผู้สมัครในด้านนี้ก็คือผู้สมัครจะต้องส่งรายงาน Credit Score ของตัวเองให้แก่ทางหน่วยงานที่เรียกสัมภาษณ์ค่ะ ในรายงานนี้จะเป็นรายงานย้อนหลังเกี่ยวกับประวัติการใช้บัตรเครดิตและการจ่ายหนี้สินต่างๆประจำเดือนของผู้สมัคร ถ้าผู้สมัครมีรายงาน Credit Score ไม่ดีหรือมีปัญหาทางการเงิน ผู้สมัครรายนั้นก็จะถูกตัดชื่อออกทันทีถึงแม้ว่าคุณสมบัติอื่นๆดีกว่าของผู้สมัครรายอื่นก็ตาม เพราะฉะนั้นการที่จะสมัครงานกับหน่วยงานราชการของสหรัฐฯโดยทั่วๆไปแล้วนั้น ผู้สมัครจะต้องมาอยู่ในสหรัฐฯอเมริกาเป็นเวลาพอสมควรแล้วจึงจะสามารถสมัครได้ เพราะเพียงแค่ระยะเวลาที่จะทำเรื่องขอสัญชาติก็นานพอสมควรทีเดียว และอย่าลืมสร้าง Credit Score ที่ดีไว้ด้วยนะคะ
โดยสรุปแล้วสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการหางานที่นี่โดยทั่วๆไปนั้น ก็ต้องเริ่มจากความสามารถทางด้านภาษาค่ะ อย่างน้อยๆเราก็ต้องสามารถอ่านและเข้าใจวัตถุประสงค์และความต้องการของบริษัทผู้ว่าจ้างว่า เขากำลังหาคนที่มีคุณสมบัติอย่างไร นอกจากนี้เราต้องใช้ความสามารถทางภาษาอังกฤษที่จะเขียน cover letter และ resume เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของว่าที่นายจ้างของเรา ก่อนที่จะเริ่มเขียนเราก็ต้องมานั่งประมวลความสามารถเพื่อใส่ลงใน resume และถ้าจะให้ดีต้องเอารายละเอียดคุณสมบัติผู้สมัครมาเปรียบเทียบกันชนิดหัวข้อต่อหัวข้อเลยทีเดียว เช่น ในโฆษณารับสมัครงานบอกว่าต้องการหาพนักงานที่สามารถพิมพ์งานได้เร็วและสามารถทำการอภิปรายและอบรมได้ แต่เราในฐานะผู้สมัครเคยเป็นพนักงานการเงินแต่มีครั้งหนึ่งที่เราเคยอธิบายการเบิกเงินสดย่อยให้พนักงานอื่นๆในบริษัทมาก่อน
ใน resume ก็ควรจะมีรายละเอียดหน้าที่รับผิดชอบอย่างน้อยสามอย่างคือ 1)พิมพ์จดหมายและใบแจ้งหนี้ 2)จัดอบรมพนักงาน และ 3)จัดการรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงินอื่นๆ จากนั้น resume ฉบับนี้จะสามารถใช้สำหรับส่งไปสมัครงานที่บริษัทนี้เท่านั้น และเมื่อมีบริษัทอื่นที่สนใจจะสมัครก็ทำเหมือนกันและเรียบเรียง resume ขึ้นมาใหม่ให้เหมาะสม
นี่คือเคล็ดลับสำคัญในการสมัครงานที่นี่ค่ะ มันไม่ใช่การโกหกแต่เป็นการจัดลำดับความสามารถของเราตามความสำคัญที่แต่ละบริษัทเขาวางเอาไว้ ซึ่งก็อาจจะเหมือนกันบ้างไม่เหมือนกันบ้าง คุณสมบัติไหนที่เราไม่มีเราก็ไม่พูดถึงแต่ก็ไม่ได้โกหก เพียงแค่เปลี่ยนเทคนิคการนำเสนอข้อมูลให้เข้าตากรรมการเท่านั้นเองค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
มาเริ่ม กิจการส่วนตัวในอเมริกา กันเถอะ
เด็กอเมริกัน ดูแลการใช้จ่ายเงินของเค้ายังไงนะ
GoGoAmerica.com เว็บรวมหลากหลายเรื่องราวน่ารู้ใน อเมริกา ทั้ง วัฒนธรรม อาหาร ชีวิตความเป็นอยู่ หางานอเมริกา สถานที่ เที่ยวอเมริกา สำหรับคนไทยที่มีเป้าหมายในอเมริกาไม่ควรพลาด
โดย Supakorn Bagley
Intercultural Consulting and Services LLC
ภาพประกอบจาก: www.jobinterviewtipsclub.com , www.docstoc.com
Thank you very much.