การคืนของในอเมริกา(Return)
ในอเมริกาถือเป็นดินแดนที่ถูกใจนักช็อปทั้งหลาย ใครจะไปหรือมาจากอเมริกา มักต้องถูกพื่อนฝูงไว้วานให้ฝากซื้อของอะไรซักอย่างกลับมาเป็นแน่ จะว่าไปแล้วสินค้าต่างๆในอเมริกามีให้เลือกสรร หลากหลาย มีร้านค้ามากมาย หาซื้อได้ทั่วไป ราคาก็มีแบบถูกได้ใจไปจนถึงแพงสุดหรู และยิ่งในตอนนี้ในอเมริกายังอยู่ในช่วงเทศกาลจับจ่ายซื้อของก่อนวันคริสมาสที่กำลังจะมาถึง บรรดาสินค้าทุกชนิดตามห้างร้านต่างๆ จะพากันลดกระหน่ำวินเทอร์เซลล์ เป็นที่ถูกใจบรรดานักช็อปทั้งหลาย สินค้าที่นี่ ซื้อง่าย ขายคล่อง คืนของก็ง่าย ดังนั้นมีนักช็อปหลายคนที่ช็อปเพลินจนลืมตรวจสอบเงินในกระเป๋า หรือบางทีซื้อไปแล้วไม่ได้ดั่งใจ ไม่พอใจ ก็ต้องนำกลับมาคืน ดังนั้นวันนี้จึงจะขอพูดถึงเรื่อง การคืนของในอเมริกา(Return) กันค่ะ
การคืนของในอเมริกา(Return) ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ เกือบทุกร้านในอเมริกาต้องการให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจในสินค้าและบริการมากที่สุด ในทุกร้านจะมี Return Policy พูดถึงนโยบายเกี่ยวกับการคืนของ ทำให้การคืนของ จึงเป็นเรื่องที่สะดวกและง่ายมากในอเมริกา ไม่เหมือนกับเมืองไทยกว่าจะคืนอะไรได้ที โดนแม่ค้าทำหน้าดุและซักเหมือนกับเป็นผู้ต้องหา แถมร้านค้าส่วนมากซื้อแล้วไม่รับคืนอีกต่างหาก แต่ในอเมริกาโดยมากจะไปคืนเมื่อไรก็ได้ ขอให้มีใบเสร็จ (หรือในบางกรณีไม่มีใบเสร็จเค้าก็ยังให้คืน)
จะว่าไปแล้วร้านค้าต่าง ๆ ในอเมริกามีนโยบายการคืนสินค้า (Return Policy) ที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วก็ใกล้เคียงกัน คือ เอาใบเสร็จมาก็จะได้เงินคืน หรือถ้าจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต เค้าก็จะเอาเงินกลับเข้าบัญชีให้ บางครั้งอาจได้เงินคืนในรูปแบบของบัตรของขวัญ (Gift Card หรือ In-Store Credit) แล้วแต่กรณีไป
ในช่วงแรกๆที่เรามาเมกาใหม่ๆ อยากเอาเสื้อที่ซื้อมาไปคืนมากม๊าก ด้วยความที่เสื้อตัวนี้ตอนลองก็ใส่พอดีค่ะ แต่หลังจากซื้อไปแล้วมาลองใส่อีกทีมันทำไมดูตัวเล็กลง (อาจจะเป็นเพราะเสื้อมันหดหรือเราตัวบวมขึ้น อิอิ) ถามเพื่อนๆหลายคนก็บอกให้เอาไปคืน มันคืนง่ายมาก แต่ด้วยความที่เรายังไม่เคยเอาของไปคืนเลย และมีประสบการณ์แย่ๆกับการคืนของที่เมืองไทยด้วย ทำให้นั่งคิด นอนคิดเป็นกังวลอยู่พอสมควรว่าจะหาเหตุผลอันใดดี ที่จะทำให้เค้าเชื่อเราว่ามัน เออ!?!? มันๆๆๆ มันเล็กไป! มันไม่ถูกใจ!มันขาด! แต่เมื่อรวบรวมความกล้าได้แล้ว เข้าไปติดต่อที่เค้าท์เตอร์ Customer service/return ในทุกๆร้านจะมีจุดนี้เพื่อให้บริการลูกค้าและรับของคืนทั้งหลายค่ะ ในช่วงที่ต่อคิวก็แอบกังวลอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อถึงคิวแล้วเจ้าหน้าที่ก็แค่ขอดูใบเสร็จ และถามแค่ไม่กี่คำถามและก็ให้เงินคืนมาเป็นเงินสดค่ะ โฮ้ ไม่น่าเชื่อมันช่างง่ายดายซะเหลือเกิน (เสียเวลานั่งวิตกกังวลอยู่ตั้งนาน)
คราวนี้ก็เลยรู้หล่ะค่ะว่ามัน ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ขอแค่ให้มีใบเสร็จ (แต่อย่าให้เกินระยะเวลาที่เค้ากำหนดในใบเสร็จนะค่ะ ซึ่งจะมีระบุไว้ว่าสามารถคืนของภายใน15 วัน 30 วัน หรือ 60วัน ต้องดูในใบเสร็จดีๆด้วยค่ะ)
หลังจากนั้นมาก็ได้เข้าไปคืนของต่างๆมากมาย โดยที่ไม่ได้รู้สึกกังวลและเครียดเหมือนตอนแรก มีรายการที่คืนของดังนี้ ซื้อเกมส์แต่ชิ้นส่วนเกมส์ขาดไป 1 ชิ้น ,แฮนดี้ไดร์ฟใช้การไม่ได้,กล้องดิจิตอลภาพไม่ชัด, เสื้อผ้า,กางเกงยีนส์ และอื่นๆ
เห็นมั้ยค่ะในอเมริกาจึงเป็นสวรรค์ของนักช็อปของจริง นอกจากจะมีของแบรนด์เนมเก๋ๆ ที่หายากในเมืองไทย รวมทั้งถ้าไม่พอใจก็สามารถขอคืนของได้อีก แต่ขอให้อยู่ในสภาพดี มีใบเสร็จสามารถยืนยันได้ว่าซื้อมาจากที่ร้านนั้นๆจริง และไม่นานวันเกินกฏกติกาการคืนของร้าน ดังนั้นการซื้อของในอเมริกาจึงมีเสน่ห์ดึงดูด คนทุกเพศ ทุกวัยจริงๆ