เตรียมตัวก่อนมาอเมริกา

นโยบายวีซ่าอเมริกา 2025 อัปเดตล่าสุดที่คนไทยต้องรู้

ปี 2025 ถือเป็นอีกปีที่สหรัฐอเมริกามีการเปลี่ยนแปลงสำคัญใน นโยบายวีซ่าอเมริกา 2025 (US Visa Policy) ส่งผลโดยตรงกับคนไทยที่กำลังมีแผนจะไป เรียนต่อ ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐาน ไปยังอเมริกา การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้บางข้ออาจดูเข้มงวดขึ้น แต่หากเรารู้และเตรียมตัวล่วงหน้า ก็ยังสามารถเดินตามเส้นทางที่ตั้งใจไว้ได้อย่างมั่นใจ

ดังนั้น บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจ นโยบายวีซ่าอเมริกา 2025 ทีละข้อ ทั้ง 7 หัวข้อการเปลี่ยนแปลงสำคัญ พร้อมคำแนะนำง่าย ๆ ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อให้การเดินทางไปอเมริกาในปี 2025 ของคุณเต็มไปด้วยความมั่นใจและโอกาสที่มากขึ้น


1. บังคับสัมภาษณ์วีซ่า ทุกประเภท Non-Immigrant

ตั้งแต่ 2 กันยายน 2025 เป็นต้นไป ผู้สมัครวีซ่าเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น F-1 (นักเรียน), J-1 (แลกเปลี่ยน), H-1B (ทำงาน) รวมถึงวีซ่าครอบครัว จะต้องเข้ารับ การสัมภาษณ์ด้วยตนเอง ที่สถานทูตหรือสถานกงสุล ไม่มีข้อยกเว้นตามอายุหรือสถานะพิเศษอีกต่อไป

ข้อเสนอแนะ:

  • ฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์ เช่น เหตุผลที่ไปเรียนต่อ ทำไมถึงเลือกมหาวิทยาลัยหรือบริษัทนั้น
  • เตรียมเอกสารให้ครบและเป็นปัจจุบัน เช่น ใบตอบรับมหาวิทยาลัยหรือสัญญาจ้างงาน
  • แสดงความจริงใจและมั่นใจในการตอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เจ้าหน้าที่

อ่านเพิ่มเติม: Times of India


2. ค่าธรรมเนียม Visa Integrity Fee

นโยบายใหม่กำหนดให้ผู้สมัครวีซ่าทุกคนต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่ม $250 ซึ่งเรียกว่า Visa Integrity Fee มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของระบบตรวจคนเข้าเมือง

Visa Integrity Fee ที่สหรัฐอเมริกา กำหนดไว้คือ 250 ดอลลาร์สหรัฐ (USD)

ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 USD = 32.6119 บาท (ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยวันนี้ 15/8/2568)

Visa Integrity Fee 250 USD = ประมาณ 8,153 บาท

ข้อเสนอแนะ:

  • วางแผนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเมื่อยื่นขอวีซ่า
  • คำนวณรวมกับค่าอื่น ๆ เช่น ค่าสัมภาษณ์ ค่าแปลเอกสาร และค่าตั๋วเครื่องบิน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการเงิน

3. ต้องเปิดเผยโซเชียลมีเดีย

ผู้สมัคร วีซ่านักเรียน F, M, J จะต้องเปิดเผยบัญชีโซเชียลมีเดีย และตั้งค่าเป็น สาธารณะ (Public) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบพฤติกรรมและประวัติการใช้งาน

ข้อเสนอแนะ:

  • ตรวจสอบโพสต์ รูปภาพ และคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่เปิดสาธารณะ ว่ามีความเหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงการโพสต์ที่เกี่ยวกับความรุนแรงหรือประเด็นที่สุ่มเสี่ยงทางการเมือง
  • ใช้โซเชียลเป็นพื้นที่สะท้อนตัวตนที่ดี เช่น การเรียน การทำงาน และกิจกรรมที่เป็นประโยชน์

รายละเอียด: Economic Times


4. การเปลี่ยนระบบ H-1B Visa

รัฐบาลสหรัฐฯ มีแผน ยกเลิกระบบล็อตเตอรี่ H-1B และปรับเป็นการคัดเลือกตาม ค่าจ้าง (Wage-Based Selection) ผู้ที่ได้รับข้อเสนองานที่มีค่าจ้างสูงกว่าจะได้สิทธิ์มากกว่า

ข้อเสนอแนะ:

  • มุ่งหางานกับบริษัทที่มีความมั่นคงและเสนอค่าตอบแทนตามเกณฑ์สูง
  • เสริมทักษะและประสบการณ์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานที่ค่าจ้างดีกว่า
  • หมั่นอัปเดตเรซูเม่และโปรไฟล์ LinkedIn ให้โดดเด่น

อ้างอิง: Times of India


5. Good Moral Character และการตรวจสอบเข้มงวด

ผู้สมัครกรีนการ์ดหรือสัญชาติ รวมถึงผู้ถือ H-1B จะถูกตรวจสอบเรื่อง Good Moral Character (ความประพฤติที่ดี) อย่างละเอียดมากขึ้น เช่น ประวัติอาชญากรรม การเสียภาษี และพฤติกรรมทางสังคม

ข้อเสนอแนะ:

  • จัดเก็บเอกสารการเสียภาษีและใบอนุญาตต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ
  • หลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายและปรับพฤติกรรมให้สอดคล้องกับสังคมอเมริกัน
  • แสดงความรับผิดชอบต่อชุมชน เช่น การอาสาสมัคร ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ด้านบวก

6. วีซ่านักเรียน (Student Visa) มีข้อจำกัดเพิ่ม

วีซ่านักเรียนอาจถูกกำหนด ระยะเวลา 2–4 ปี และต้องต่ออายุเมื่อครบกำหนด หากนักเรียนมีพฤติกรรมที่ขัดต่อกฎหมาย เช่น ใช้สถานะผิดเงื่อนไข หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม อาจถูกเพิกถอนสิทธิ์ทันที

ข้อเสนอแนะ:

  • วางแผนการเรียนให้ตรงตามระยะเวลาวีซ่า
  • หมั่นตรวจสอบสถานะ SEVIS และต่ออายุให้ทันเวลา
  • รักษาพฤติกรรมที่ดีทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการถูกยกเลิกวีซ่า

7. Visa Bulletin และกรีนการ์ด

ในปี 2025 มีการปรับปรุง Visa Bulletin โดยหมวดครอบครัว (F-2A, F-3) มีความคืบหน้า แต่หมวดการทำงาน (Employment-Based) มีแนวโน้มที่จะหยุดชะงักชั่วคราว ขณะเดียวกัน USCIS ยังปรับเกณฑ์การคำนวณอายุ CSPA ใหม่ โดยใช้ Final Action Date เป็นหลัก

ข้อเสนอแนะ:

  • ผู้สมัครกรีนการ์ดควรติดตาม Visa Bulletin อย่างสม่ำเสมอ
  • ปรึกษาทนายความด้านการอิมมิเกรชันเพื่อเตรียมแผนสำรองหากการยื่นล่าช้า
  • จัดเตรียมเอกสารให้พร้อมเมื่อถึงคิว เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์

ข้อมูลเพิ่มเติม: Economic Times


การเปลี่ยนแปลง นโยบายวีซ่าอเมริกา 2025 อาจฟังดู “เข้มงวดขึ้น” แต่ถ้าเรามองในมุมหนึ่ง มันก็ช่วยให้ผู้ที่ตั้งใจจริงและเตรียมตัวครบถ้วน มีโอกาสได้วีซ่าง่ายขึ้น เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการคัดกรองคนที่มีเป้าหมายชัดเจน และพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย

จุดสำคัญที่ควรรู้

  1. การสัมภาษณ์สำคัญที่สุด – ไม่ว่าจะเป็นวีซ่านักเรียน ท่องเที่ยว หรือทำงาน ต้องเตรียมตัวตอบคำถามอย่างมั่นใจและซื่อสัตย์
  2. โซเชียลมีเดียก็มีผล – ตรวจสอบโพสต์ รูปภาพ และคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่สาธารณะ ควรสะท้อนภาพลักษณ์ที่เหมาะสม
  3. โอกาส H-1B อยู่ที่ค่าจ้าง – คนที่หางานตรงสายและได้ค่าตอบแทนสูง จะได้เปรียบในการขอวีซ่า
  4. กรีนการ์ดต้องโปร่งใส – การเสียภาษีและประวัติส่วนตัวจะถูกตรวจสอบเข้มกว่าที่เคย

การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้หลายคนรู้สึกกังวล แต่ความจริงแล้วมันคือโอกาสสำหรับคนที่ เตรียมตัวอย่างรอบคอบ หากคุณมีความตั้งใจจริง ไม่ว่าจะไป เรียนต่อ ทำงาน หรือเริ่มต้นชีวิตใหม่ในอเมริกา คุณก็ยังมีเส้นทางที่ชัดเจน เพียงแค่จัดการเอกสารให้ครบ ซื่อสัตย์ และเตรียมใจให้พร้อม

จำไว้ว่า: “นโยบายที่เข้มขึ้น ไม่ได้หมายความว่าประตูถูกปิด แต่คือการคัดเลือกคนที่พร้อมจริง ๆ ให้ก้าวเข้าไปได้มั่นคงกว่าเดิม

 


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ นโยบายวีซ่าอเมริกา 2025

1. ทำไมสหรัฐอเมริกาถึงบังคับให้ทุกคนต้องเข้าสัมภาษณ์วีซ่า?

คำตอบ:
เพราะรัฐบาลอเมริกา ต้องการเพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัย การสัมภาษณ์ด้วยตัวเองช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถประเมินเจตนา ความน่าเชื่อถือ และความพร้อมของผู้สมัครได้ดีกว่าการใช้เอกสารเพียงอย่างเดียว ซึ่งในมุมดีต่อผู้สมัครก็คือ หากคุณเตรียมตัวมาดีและตอบคำถามอย่างมั่นใจ โอกาสได้วีซ่าจะสูงขึ้น

2. การเพิ่มค่าธรรมเนียม Visa Integrity Fee $250 มีประโยชน์อย่างไร?

คำตอบ:
แม้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่ค่าธรรมเนียมนี้ถูกใช้เพื่อปรับปรุงระบบตรวจคนเข้าเมืองให้มีมาตรฐานที่ปลอดภัยและทันสมัยมากขึ้น เมื่อระบบดีขึ้นก็จะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการทุจริตหรือการตรวจล่าช้า ทำให้ผู้ที่ตั้งใจจริงจะได้ประโยชน์จากการดำเนินการที่รวดเร็วและโปร่งใสมากขึ้น

Visa Integrity Fee ที่สหรัฐอเมริกา กำหนดไว้คือ 250 ดอลลาร์สหรัฐ (USD)

ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 USD = 32.6119 บาท (ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยวันนี้ 18/8/2568)

Visa Integrity Fee 250 USD = ประมาณ 8,153 บาท

3. ทำไมต้องเปิดเผยโซเชียลมีเดียต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง?

คำตอบ:
โซเชียลมีเดียสะท้อนตัวตนในชีวิตจริงของผู้สมัคร เจ้าหน้าที่ใช้เพื่อดูว่าผู้สมัครมีพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงหรือไม่ เช่น เกี่ยวข้องกับความรุนแรงหรือสิ่งผิดกฎหมาย ข้อดีคือ สำหรับผู้สมัครที่ใช้โซเชียลอย่างเหมาะสม นี่คือ “หลักฐานเชิงบวก” ที่ช่วยยืนยันความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น

4. ทำไม H-1B ถึงเปลี่ยนจากระบบล็อตเตอรี่เป็นการคัดเลือกตามค่าจ้าง (Wage-Based)?

คำตอบ:
การคัดเลือกแบบค่าจ้างสูง ช่วยให้สหรัฐอเมริกา ดึงดูดแรงงานฝีมือคุณภาพที่มีทักษะและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงเข้าสู่ประเทศ ในมุมดีต่อผู้สมัครคือ หากคุณพัฒนาทักษะให้เป็นที่ต้องการของตลาด จะมีโอกาสได้งานและวีซ่ามากขึ้น พร้อมทั้งได้ค่าตอบแทนที่สูงและมั่นคงกว่าเดิม

5. ทำไมต้องเข้มงวดเรื่อง Good Moral Character สำหรับกรีนการ์ดและสัญชาติ?

คำตอบ:
เพราะสหรัฐอเมริกา ต้องการให้ผู้ที่ได้สถานะถาวรเป็นคนที่มีคุณภาพ มีความรับผิดชอบ และอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างดีเยี่ยม การตรวจสอบเรื่องประวัติอาชญากรรม การเสียภาษี และพฤติกรรมทางสังคม จึงเป็นการคัดเลือกที่ช่วยให้สังคมปลอดภัยและมีมาตรฐานสูง สำหรับผู้สมัครที่มีพฤติกรรมดีและรักษากฎระเบียบ ก็จะยิ่งได้รับการยอมรับง่ายขึ้น


หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

10 เว็บไซต์ที่ดีที่สุดสำหรับหาโรงแรม

ประกันการเดินทางต่างประเทศ จำเป็นแค่ไหน เลือกซื้อที่ไหนดี มีคำตอบ!

โอนเงินจากต่างประเทศมาไทย แบบไหนดี รวดเร็ว ปลอดภัยที่สุด ปี 2023

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *