เที่ยว Colonial Williamsburg เวอร์จิเนีย
สหรัฐอเมริกาตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับ ๒ มหาสมุทร คือ มหาสมุทรแปซิฟิคทางชายฝั่งตะวันตกและมหาสมุทรแอตแลนติคทางชายฝั่งตะวันออก ชายแดนทางทิศเหนือติดต่อกับประเทศแคนาดา ส่วนทางใต้นั้นติดต่อกับประเทศแม็กซิโก และอ่าวแม็กซิโก
เพราะความกว้างใหญ่ไพศาลของประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ จึงมีจุดดึงดูดและความน่าสนใจที่ต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคค่ะ แต่ถ้าอยากจะเที่ยวและได้เรียนรู้ที่มาที่ไป หรือจุดเริ่มต้นของประเทศอเมริกา ก็ต้องที่ Colonial Williamsburg ในรัฐ Virginia ค่ะ
เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีวันหยุดหลายวัน เพราะเป็นเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ก็เลยมีโอกาสได้ไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัวค่ะ แน่นอนที่สุดไม่ใช่ที่อื่นนอกจาก Colonial Williamsburg นี่แหละค่ะ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางประวัติศาสตร์ค่ะ
พอบอกอย่างนี้หลายคนคงจะคิดถึงเมืองโบราณหรือการแสดงแสงสีเสียง จริงๆแล้วก็ทั้งใช่และไม่ใช่ค่ะ ที่นี่เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่บนสถานที่จริง และมีการแสดงย้อนให้เห็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นที่นี่ค่ะ
ในเมืองไทยเวลาเราไปดูการแสดงแสงสีเสียงหรือการแสดงทางประวัติศาสตร์ เราจะเข้าไปนั่งดูการแสดงตามเลขที่นั่งบนบัตรใช่ไม๊คะ แต่ที่ Colonial Williamsburg นี่นักท่องเที่ยวจะซื้อบัตรผ่านประตูเพื่อย้อนเวลาเข้าไปในอดีตค่ะ
อาคารร้านค้าต่างๆที่ในบริเวณเมืองประวัติศาสตร์ เป็นอาคารที่ถูกอนุรักษ์ไว้โดยมูลนิธิ Colonial Williamsburg ทางมูลนิธิจ้างคนให้มาแสดงโดยแต่งตัวประกอบอาชีพและดำรงชีวิตเหมือนในอดีต ในช่วง Revolutionary War หรือสงครามที่สหรัฐฯพยายามจะปลดปล่อยตัวเอง จากการเป็นอนานิคมของอักฤษค่ะ
นักท่องเที่ยวสามารถจับจ่ายซื้อของและร่วมกิจกรรมต่างๆได้ พูดง่ายๆก็เหมือนไปดูการถ่ายละคร แต่เราได้เข้าร่วมเป็นตัวแสดงด้วย ถ้าใครนึกสนุกที่ร้านเสื้อผ้าก็มีเสื้อผ้าให้เช่าหรือซื้อใส่ ตอนเดินเที่ยวได้ด้วยค่ะ
ครั้งนี้ที่ไป ก่อนไปได้ติดต่อโรงแรมของมูลนิธิซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองประวัติศาสตร์ เพื่อความสะดวก แต่ถ้าใครไม่ชอบโรงแรมข้างนอกก็มีให้เลือกมากมายและราคาก็ถูกกว่าค่ะ ถ้าพักโรงแรมของมูลนิธิ ค่าห้องพักจะรวมค่าผ่านประตูและมีคูปองส่วนลดต่างๆไว้ให้ด้วย
ในตอนเช้ามีบุฟเฟ่อาหารเช้าไว้บริการจนถึงประมาณสิบโมงเช้าค่ะ (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) ที่บอกว่าพักที่นี่เพื่อความสะดวกก็เพราะว่า มาเที่ยวที่นี่ต้องเดินดูรอบๆเมืองค่ะ ไม่แน่ใจว่าเจ้าลูกชายตัวเล็กจะบ่นเหนื่อยขึ้นมาตอนไหน แต่ถ้าเหนี่อยก็เดินกลับมานอนพักที่โรงแรม พอหายเหนื่อยแล้วก็ออกไปเดินดูอะไรต่อมิอะไรอีกค่ะ
ในช่วงวันหยุดหลายวันหรือช่วงเทศกาลอย่างตอนที่ไป ในเมืองจัดจำลองเหตุการณ์ตอนที่ นายพล George Washington (ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาค่ะ) ตัดสินใจแวะพักไพร่พลกองทหารก่อนที่จะสามารถเอาชนะกองทัพอังกฤษค่ะ
การแสดงต่างๆจะเริ่มตั้งแต่เก้าโมงเช้า เพราะท่านนายพลจะกล่าวสุนทรพจน์กับชาวเมือง ในฐานะที่เรารับบทบาทเป็นชาวเมือง Williamsburg ทั้งครอบครัวก็ตื่นแต่เช้าไปรับประทานอาหาร เพื่อให้ไปได้ทันฟังสุนทรพจน์ค่ะ
พอไปถึงที่ศาลซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองก็มีชาวเมือง (นักท่องเที่ยวและพนักงานของมูลนิธิ) รวมตัวรอกันอยู่แล้วค่ะ การแสดงวันนี้เริ่มจากการอธิบายว่าในเมืองจะย้อนยุคไปวันไหน และมีความสำคัญอย่างไร ผู้ที่มาอธิบายก็จะเป็นนักประวัติศาสตร์ของมูลนิธิค่ะ
จากนั้นก็เป็นขบวนสวนสนามของกองทหาร นำม้าของท่านนายพลและคณะเข้ามาที่เมือง พอดูการแสดงตรงนี้เสร็จแล้ว ก็พาลูกชายไปดูการเรี่ยไรพลรับชาวบ้านเข้าเป็นทหาร ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเข้าร่วมฝึกทหารได้ค่ะ การฝึกก็เป็นการเข้าแถวซ้ายหันขวาหันธรรมดา ไม่ได้ฝึกจริงจังค่ะคิดว่าง่ายๆแต่ก็ทำผิดทำถูกตลอดค่ะ จากนั้นก็เป็นการเรียนบรรจุดินปืน แต่เป็นของปลอมทั้งหมดนะคะ
เมื่อได้ฝึกทหารแล้ว ลูกชายก็ร่ำร้องอยากจะใส่ชุดทหารย้อนยุค ทนคำร่ำร้องไม่ไหว ก็เลยต้องซื้อให้ บางครั้งนึกสนุกเจ้าลูกชายวัยหกขวบก็เข้าร่วมเดินกับกองทหารลาดตระเวนด้วยค่ะ ต้องเตือนความจำอย่างนึงค่ะว่า ทั้งเมืองย้อนยุคกลับไปตอนช่วงสงคราม เพราะฉะนั้น ทุกอย่างก็จะเป็นเหมือนกำลังเกิดขึ้นจริงค่ะ มีทหารเวรยามตามจุดต่างๆทั่วเมือง และมีทหารแบ่งกำลังเป็นกลุ่มเล็กๆเดินลาดตระเวรตลอดเวลาค่ะ
ในตัวเมืองนอกจากจะเดินดูของซื้อของแล้ว จะมีบ้านของคนสำคัญในประวัติศาสตร์ให้เข้าดู การเข้าไปดูในบ้านก็ต้องเข้าเป็นกลุ่มตามตารางเวลา เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายเหตุการณ์ ถ้าใครเคยไปเที่ยวพระที่นั่งวิมานเมฆคงจะนึกภาพออก เพราะเป็นทัวร์ในลักษณะเดียวกัน ที่ต่างกันคือที่นี่เขาทำการศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านแต่ละหลัง ก็จะเป็นวันเดียวกันทั้งหมด ข้าวของเครื่องใช้จะถูกจัดไว้เหมือนกับเหตุการณ์เพิ่งจะเกิดขึ้นจริงค่ะ
ถ้าใครสนใจเรื่องผีก็จะมีทัวร์เล่าเรื่องผีในตอนหัวค่ำด้วยค่ะ ครั้งนี้ไปลูกชายโตพอแล้ว ก็เลยลองเข้าร่วมทัวร์ดูค่ะ แต่ก็ไม่น่ากลัวอะไรนะคะ มันก็เหมือนเดินเที่ยวในตัวเมือง หลังจากที่ร้านค้าบ้านเรือนปิดหมดแล้ว
ลืมบอกอย่างหนึ่งค่ะที่เมืองประวัติศาสตร์ Williamsburg นี้ จะเปิดแต่ในเวลากลางวันเท่านั้น ในเวลากลางคืนจะเปิดเฉพาะร้านอาหารเท่านั้นค่ะ สำหรับทัวร์เล่าเรื่องผี กลุ่มทัวร์ก็จะเดินตามไกด์ทัวร์ไปค่ะ ไกด์จะหยุดตามหน้าบ้านหรืออาคาร ที่มีคำร่ำรือเกี่ยวกับปรากฏการณ์ลึกลับหรือเรื่องผีๆสางๆ เพื่อที่จะเล่าเรื่องให้ลูกทัวร์ฟัง บางคนอยากพิสูจน์ก็จะถ่ายรูปเข้าไปตามหน้าต่าง หวังว่าอาจจะได้เห็นอะไรดีๆในรูป แต่ตัวเองไม่ได้ถ่ายหรอกค่ะกลัวเห็นค่ะ
จะเห็นว่าที่ Colonial Williamsburg นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา ซึ่งก็เป็นวัตถุประสงค์หลักของทางมูลนิธิ ที่ต้องการจะให้ความรู้และความเข้าใจในความเป็นมา และจุดกำเนิดของประเทศ การแสดงและคำอธิบายต่างๆก็จะมีการค้นคว้าและศึกษา เพื่อให้ข้อมูลสามารถเชื่อถือได้
ของแถมจากการมาเที่ยวที่นี่ก็คือการได้เดินออกกำลังกายค่ะ ถ้าใครจะมาต้องดูรายงานอากาศก่อนนะคะ จะได้แต่งตัวได้ถูกต้องไม่หนาวไม่ร้อนเกินไป ที่สำคัญก็คือรองเท้าค่ะ ไม่ขอแนะนำให้ใส่รองเท้าส้นสูงนะคะ รองเท้าผ้าใบหรือร้องเท้าพื้นราบ น่าจะเหมาะที่สุดเพราะถนนในเมืองเป็นถนนเก่าค่ะ
เมื่อมาถึงแล้วไม่ว่าจะพักข้างในหรือข้างนอกเมืองประวัติศาสตร์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ศึกษาแผนที่ก่อนค่ะ เพราะในแผนที่จะบอกรายการการแสดง สถานที่ และเวลาแสดงทั้งหมดค่ะ พอถึงเวลาเดินเที่ยวจะได้วางแผนการเดินได้ง่าย ไม่ต้องย้อนกลับไปกลับมาให้เสียเวลา และไม่เหนื่อยมากด้วยค่ะ
และถ้าจะมาเที่ยวให้คุ้มค่าและได้เรียนรู้ให้มากที่สุด ก็ต้องมาถึงที่เมืองประวัติศาสตร์ตั้งแต่เก้าโมงเช้าและอยู่ตลอดทั้งวันจนถึงตอนเย็นค่ะ แต่ถ้าใครมีเวลาไม่มากนัก การได้มาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของอเมริกาแล้วค่ะ ลองมาดูนะคะว่าความเป็นมาและชีวิตของชาวอเมริกัน เหมือนหรือแตกต่างจากของไทยเราอย่างไรค่ะ สนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.colonialwilliamsburg.com
Author: Supakon, Intercultural Consulting and Services LLC