อากาศ และ เวลา ในอเมริกา
ใครได้มาอเมริกาก็จะเห็นนะค่ะว่า เป็นประเทศที่กว้างใหญ่มากค่ะ ภูมิอากาศก็หลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ในอเมริกาเราจะพบอากาศได้ทุกรูปแบบ ตั้งแต่บรรยากาศแบบแถบขั้วโลกซึ่งหนาวติดลบ 40 องศา จนถึงบรรยากาศที่ร้อนเหมือนทะเลทราย 45 องศา ดังนั้นช่วงหน้าร้อนนี้หล่ะค่ะ จะทำให้ผิวเปลี่ยนเป็นสีแทน หรือบางคนตกกระได้ง่ายดาย วันนี้เราจะพูดถึง อากาศ และ เวลา ในอเมริกา เพื่อให้ทุกคนได้เตรียมตัวกันค่ะ
ฤดูร้อน (Summer) อยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม
Summer in USA |
ฤดูนี้เวลากลางวันจะมากกว่ากลางคืน ประมาณ 2 ทุ่ม หรือ 3 ทุ่ม ยังไม่มืดค่ะ ดังนั้นฤดูนี้จึงเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย ที่จะได้ทำกิจกรรมต่างๆ มากมายแบบ out door บางคนพาครอบครัวไปทะเล ไปปิคนิก เดินชอปปิ้ง หรือ เล่นกีฬา
ฤดูใบไม้ร่วง (Fall) อยู่ในช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน
Fall in USA |
ใครได้มาอเมริกาช่วงนี้จะได้เห็นต้นไม้หลากหลายสี สีแดง สีขาว สีเหลือง ซึ่งเป็นใบที่กำลังจะร่วงหล่นจากต้น เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่หน้าหนาว ต้องบอกได้เลยว่า มีกลิ่นไอความโรแมนติก ซึ่งสวยไปอีกแบบ
ฤดูหนาว (Winter) อยู่ในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
Winter in USA |
ฤดูนี้เวลากลางวันจะสี้นกลางคืนจะยาว ประมาณ 5 โมงก็มืดแล้วค่ะ อาจจะไม่ได้มีกิจกรรมให้ทำมากมายเหมือนหน้าร้อน แต่สำหรับคนไทยที่เพิ่งมาอเมริกาต้องตื่นตะลึง และประทับใจกับการได้เห็นหิมะเป็นครั้งแรกในชีวิต รวมทั้งสามารถหาที่เล่นสกีได้ไม่ยากค่ะ
ฤดูใบไม้ผลิ (Spring)อยู่ในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม
Spring in USA |
ฤดูนี้ เป็นช่วงที่หลายคนชื่นชอบอยู่เหมือนกัน นอกจากอากาศเริ่มจะอุ่น ขึ้นมาแล้ว ฤดูนี้ยังเป็นช่วงที่ดอกไม้บานสะพรั่งค่ะ มีหลากหลายสี มองไปทางไหนก็สดชื่น โดยเฉพาะในช่วงต้นเมษา จะมีงานดอกซากุระบาน( Cherry Blossom) ในดีซี เราสามารถเห็นต้นดอกซากุระ สีชมพูอ่อน สวยงาม เรียงราย สุดลูกหูลูกตา รอบๆบริเวณดีซีค่ะ
เวลาในอเมริกา
เนื่องจากอเมริกาเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่มาก จึงมีการจัดแบ่งการใช้เวลาที่แตกต่างกัน ดังนี้
US Time Zone |
ส่วนภาคตะวันออก หรือ Eastern Time Zone (EST) : จะมีเวลาช้ากว่าเวลาในประเทศไทยเท่ากับ 12 ชั่วโมง แต่ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน จะมีการปรับเลื่อนเวลาในช่วงฤดูร้อนอีก 1 ชั่วโมง หรือ Daylight Saving Time ทำให้เวลาช้ากว่าประเทศไทยเป็น 13 ชั่วโมง เมืองสำคัญที่อยู่ในเขต EST คือ Boston, New York, Washington D.C., Miami และ Cleveland
ส่วนตอนกลางของประเทศ หรือ Central Time Zone จะมีเวลาช้ากว่าในประเทศไทยเท่ากับ 13 ชั่วโมง แต่ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน มีการปรับ Daylight Saving Time ซึ่งจะมีผลทำให้เวลาของอเมริกาช้ากว่าเวลาในประเทศไทยเป็น 14 ชั่วโมง เมืองสำคัญที่อยู่ในเขตนี้คือ Chicago และ New Orleans
ส่วนพื้นที่ในย่านมหาสมุทรแปซิฟิค หรือ Pacific Time Zone จะมีเวลาช้ากว่าเวลาในประเทศไทย เท่ากับ 15 ชั่วโมง แต่ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน มีการปรับ Daylight Saving Time ซึ่งจะมีผลทำให้เวลาช้ากว่าในประเทศไทยเป็น 16 ชั่วโมง เมืองสำคัญที่อยู่ในเขตนี้คือ San Francisco , Seattle และ Hawaii
Daylight Saving คือ การปรับเวลาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะมีการหมุนเข็มนาฬิกาให้เวลาเดินหน้าเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง โดยจะปรับเวลาในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคม และเมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็จะหมุนเข็มนาฬิกาให้ถอยหลัง 1 ชั่วโมง โดยจะเริ่มปรับเวลาในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน
เราสามารถเข้าไปเช็คสภาพอากาศล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ http://www.weather.com หรือ http://weather.yahoo.comโดยการกรอก รหัสไปรษณีย์ (zip code) ของเมืองที่เราอยู่เราลงไปในช่อง Enter city or zip code จากนั้นเราจะทราบสภาพดิน ฟ้า อากาศ ล่วงหน้าได้อย่าง ฉับไวและเตรียมตัวสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะกับสถานการณ์