เมื่อเอ่ยชื่อ อุทยานแห่งชาติเยลโล่สโตน (Yellowstone National Park) เราคิดว่าเพื่อน ๆ น่าจะคุ้นหู และเคยได้ยินกันมาอยู่บ้าง แต่บางทีอาจจะยังนึกไม่ออกว่าเยลโล่สโตนมีจุดเด่นอย่างไร ถึงทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลังไหลมาชมความงามกันในทุกฤดูกาล อาจเป็นเพราะว่าเยลโล่สโตน มีความสวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู แต่ฤดูที่สามารถท่องเที่ยวได้สะดวกที่สุด คือช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วงค่ะ
อุทยานแห่งชาติเยลโล่สโตน ตั้งอยู่ในเขตรัฐไวโอมิ่ง (Wyoming) เราขับรถจากรัฐเทนเนสซี่ (Tennessee) ใช้เวลาโดยประมาณ 2 วันครึ่งค่ะ ใช้เวลานานกว่าปกติเพราะว่าแวะเที่ยวมาเรื่อย ๆ หลายจุด
กว่าจะถึงเยลโล่สโตน ขับผ่าน 13 รัฐด้วยกัน เราไปถึงกันตอนกลางคืนค่ะ ในอุทยานแห่งชาติจะมีโรงแรม ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย แต่ราคาแพงมาก คืนละไม่ต่ำกว่า 200 USD หรือประมาณ 6300 บาท เราได้ไปเที่ยวช่วงเดือนสิงหาคมจะถือเป็นช่วงไฮซีซั่นค่ะ เป็นช่วงหน้าร้อนของประเทศอเมริกา อากาศ
กำลังดีเลย
15-27 องศา แต่กลางคืนอากาศจะลดลง ไปถึง
10 องศาค่ะ นอนหนาวกันเลยทีเดียวขนาดใช้ ถุงนอนและเครื่องแต่งกายอุ่นยังหนาวเลยเพราะไม่มีฮีทค่ะ เราเลือกพักแบบจุดจอดและพักกางเต้นท์
(Camp Ground) ตกคืนละ
20USD หรือประมาณ
600 บาท ที่นี้มีห้องน้ำรวมให้ค่ะ สะอาดดี
จุดแวะเที่ยวดังๆ ในอุทยานมีหลายที่ด้วยกัน แต่เมื่อกล่าวถึงเยลโล่สโตนคนก็จะนึกถึง
น้ำพุร้อนโอเฟสท์ฟอล์(Old Faithful Geyser) โอเฟสท์ฟอล์คือจุดที่เป็นบ่อน้ำพุร้อนพวยพุ่งขึ้้นมาจากใต้ดินค่ะ พุงสูงประมาณ 5 – 10 เมตร จะพุงห่างกันประมาณ 30 – 60 นาที จะมีผู้คนมารอชมอยู่มากมาย จุดเด่นเราคิดว่าโอเเฟสท์ฟอล์มีสภาพภูมิประเทศโดยรอบที่สวยงามเป็นทุ่งหญ้าสีทองและมีบ่อน้ำพุร้อนรอบๆ สีสันแตกต่างกันไปตามแร่ธาตุค่ะ ลมเย็นสบายนั่งรอดูน้ำพุพวยพุ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศ และสนุกสนานกับเสียงเชียร์ของนักท่องเที่ยวที่โฮ่ร้องเวลาที่น้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมา ทำให้ตื่นเต้นกับความสวยงามของละอองน้ำสีขาวเหมือนหมอก
หลังจากชมความสวยงามของโอเฟสท์ฟอล์เสร็จก็ขับรถคดเคียวไปมา ก็จะเจออีกสถานที่ ที่เราประทับใจในความสวยงามก็คือ โลเวอร์ฟอล์ (Lower Fall) เราจอดรถและเดินไปตามทาง ลง ไปชมยังตัวน้ำตกค่ะ ขาลงไม่เท่าไหร่ ขากลับขึ้นมานี้สิหอบกันเลยทีเดียว Lower fall เป็นน้ำตกที่ใหญ่ อลังการมาก สวยงามตะการตา น้ำตกมีความสูงมาก ๆจึงทำให้กระแสน้ำที่มีความรุนแรงไหลเชี่ยวมาก จึงไม่สามารถลงเล่นน้ำในบริเวรณนั้นได้ค่ะ ธารน้ำจะไหลจากน้ำตกแหวกแนวเขา 2 ลูก ทำให้วิวน่าดูอัศจรรย์เกินคำบรรยายจริงๆ และทำให้ที่นี้เป็นซิกเนเจอร์ของเยลโล่สโตนเลยทีเดียวค่ะ
|
Cradit: yellowstonewiki.com/wiki/Lake_House_Restaurant |
การเที่ยวในเยลโล่สโตนต้องใช้เวลาหลายวันถึงจะชมจุดสำคัญ ๆ ได้ทั่ว เพราะเป็น National park ที่ใหญ่จริง ๆ ค่ะ ยังมีสถานที่เที่ยวอีกมากมาย รวมถึงความสนุกสนานในการชมสัตว์ป่าด้วย จะกลับมาเล่าให้ฟังในตอนต่อไปนะคะ
Author : FellyS