เตรียมตัวขอวีซ่าอเมริกา (Visa America)
วิธีการสมัครวีซ่าประเภทชั่วคราว มีขั้นตอนดังนี้ค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: รวบรวมข้อมูล และรายละเอียดการเดินทาง (ข้อมูลต่างๆเล่านี้เราจะต้องใช้กรอกในใบสมัครวีซ่า DS -160 ในขั้นตอนต่อไป)
ตอนที่เรารวบรวมข้อมูลเอกสารต่างๆ ของแม่ เราก็คิดว่าน่าจะได้ข้อมูลครบแล้ว แต่ที่ไหนได้มารู้อีกทีว่าเรายังมีข้อมูลหลายอย่างไม่ครบนี้หว่า มารู้ตอนกรอกแบบฟอร์มสมัครนี้แหละ เพราะยังไม่มีที่อยู่ของโรงแรมที่แม่จะไปพักและไม่รู้จักชื่อจริง เพื่อนของแม่ที่จะไปเที่ยวอเมริกาด้วยกัน ทำให้เราต้องรออยู่หลายวันกว่าจะได้ส่งใบสมัคร ดังนั้นจึงอยากแนะนำเพื่อนๆ เข้าไปดูตัวอย่างคำถามในใบสมัครวีซ่า ดูก่อน เรามีตัวอย่างใบสมัครของแม่มาให้ดูด้วย จะได้เตรียมหาข้อมูลแต่เนิ่นๆ เพราะเมื่อกรอกใบสมัครจริงจะได้ง่าย และไม่ใช้เวลานานมาก
** อย่าลืมเตรียมรูปถ่าย(ที่ได้มาตรฐานของสถานฑูต) และ ไฟล์ภาพ เพื่อดาวน์โหลดรูป ด้วยนะค่ะ
ดูตามลิงค์นี้ได้จ้า ตัวอย่างคำถามในใบสมัครวีซ่าอเมริกา ดีเอส-160 (DS-160)
ขั้นตอนที่ 2: กรอกใบสมัครวีซ่า ดีเอส-160 (DS-160) ทางอินเตอร์เน็ต สมัครได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ
https://ceac.state.gov/genniv
เข้าไปดูตัวอย่างใบสมัครวีซ่า ดีเอส-160 (DS-160) อีกครั้ง ได้ที่นี้
เมื่อกรอกข้อมูลในใบสมัครเรียบร้อยแล้ว แต่อย่าลืมตรวจทานข้อมูลต่างๆก่อนที่เราจะ คลิกยืนยัน นะค่ะ
*** คราวนี้ ก็มาถึงขั้นตอนที่สำคัญต้องปริ้นท์หน้ายืนยันใบสมัคร ดีเอส-160 (DS-160 confirmation page) ออกมาด้วย และนำมาในวันสัมภาษณ์ด้วย
บางคนอาจจะลืมปริ้นท์หรืออาจทำหาย ไม่ต้องตกใจค่ะ เราจะได้รับหน้ายืนยันใบสมัคร ดีเอส-160 ทางเมล ที่เราแจ้งไป เราก็สามารถปริ้นท์ออกมาใหม่ได้ค่ะ
และเจ้าหมายเลขยืนยันในแบบฟอร์มการสมัครนี้เอง เราจะนำมาใช้ในขั้นตอนต่อไป คือ การนัดวันสัมภาษณ์วีซ่า นั่นเอง
ขั้นตอนที่ 3: ซื้อ PIN (Personal Identification Number) และจองวันสัมภาษณ์วีซ่า
ที่จริงเราซื้อ PIN ก่อนเป็นอันดับแรกเลย เพราะคิดว่าจะต้องใช้ในขั้นตอนแรก แต่กว่าจะได้ใช้ก็ต้องรอกรอกใบสมัครขอวีซ่าให้เสร็จก่อน
การซื้อ PIN สามารถซื้อได้ตามอินเตอร์เน็ต หรือ ที่ไปรษณีย์ (เราไปซื้อที่ไปรษณีย์ค่ะ เพราะ สะดวกดี ราคา 384 บาท)
โดยเพียงกรอกชื่อ-ชื่อสกุลเป็นภาษาอังกฤษตามที่ระบุไว้ใหนังสือเดินทางและหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และเลือกซื้อ Pin Number ตามประเภทที่ต้องการใช้ได้เลยค่ะ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องการซื้อ PIN ได้ที่นี่ค่ะ
เมื่อได้ PIN แล้ว เราก็เอาหมายเลขที่ติดมากับใบเสร็จ PIN นี้แหละ มาจองวันสัมภาษณ์ที่เว็บไซต์ นี้
http://thailand.us-visaservices.com หรือ โทร. 001-800-13-202-2457
เมื่อเข้าไปในเว็บไซต์ แล้วเลือกที่ “ข้อมูลวีซ่าและการนัดหมาย” (Visa information and Appointment)
แล้วเราต้องเลือกว่า จะมาสัมภาษณที่สถานทูตกรุงเทพ หรือ ที่เชียงใหม่ ลองดูรายละเอียดดีๆนะค่ะว่าเราสามารถไปสัมภาษณ์ได้ที่ไหน
แล้วก็ถึงขั้นตอนของการเข้าไปในระบบ
Enter a user name : กรอกชื่อ
Enter a unique password : รหัสพาสเวิร์ด (เค้าจะบอกรายละเอียดว่าต้องใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ 1 ตัว พิมพ์เล็ก 1 ตัว สัญลักษณ์ 1 ตัว ตัวเลข 1 ตัว ลองดูตัวอย่างที่เค้าให้มานะคะ)
Confirm password: ยืนยันรหัสพาสเวิร์ด
Choose a secret question: เลือกคำถาม
Answer to the secret question: ตอบคำถาม
Please select a preferred language: เลือกภาษา
Enter your email address: กรอกอีเมล
enter your PIN here: ใส่รหัสพินที่ซื้อมา
สมัครเสร็จแล้วก็เข้าไปจองวันสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ
เราสามารถเลือกในช่องที่เป็นสีเขียวได้เลยค่ะ ช่องสีฟ้าแสดงว่าเต็ม ช่องสีขาวเป็นวันหยุด ช่องสีเหลืองยังไม่เปิดให้จอง ต้องลองเค้ามาเช็คบ่อยๆนะค่ะ ตอนที่เราเลือกจองวันสัมภาษณ์ให้แม่ ในช่วงนั้นตารางวันเต็มทั้งเดือนค่ะ สรุปกว่าจะได้สัมภาษณ์ ก็ต้องรออีก เกือบ 2 เดือน แต่ก็พยายามคิดว่าเป็นเรื่องดีค่ะ เพราะจะได้เตรียมเอกสารต่างๆ ที่มีมากมายให้พร้อม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องการจองนัดสัมภาษณ์ได้ที่นี่ค่ะ
ขั้นตอนที่ 4: ชำระค่าธรรมเนียมการสมัครวีซ่าที่ไปรษณีย์
ตอนที่เราเช็คจากในเว็บมาหลายที่ ราคาประมาณ 4,500 บาท แต่เมื่อไปจ่ายตางค์ค่าธรรมเนียมที่ไปรษณีย์ ราคาปาเข้าไปที่ 5,120 บาท เราก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไมราคาค่าธรรมเนียมมันขึ้นมาเยอะมาก เขาก็บอกว่า ทางสถานทูตอเมริกาปรับขึ้น (ได้แต่แอบนึกในใจว่านอกจากกิตติศัพท์เรื่องความโหดแล้ว ยังหน้าเลือดอีก )
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องการชำระค่าธรรมเนียมได้ที่นี่ค่ะ
อย่าลืมเก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐานด้วยนะค่ะ เพราะเราต้องนำมาแสดงในวันสัมภาษณ์ด้วย
ขั้นตอนที่ 5: เดินทางมาที่สถานทูตสหรัฐ ที่กรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลสหรัฐที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับการสัมภาษณ์วีซ่า
หลังจากที่ผ่านการทำขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อยแล้ว เราจะพูดถึงรายละเอียดการเตรียมเอกสาร และการสัมภาษณ์ในครั้งต่อไปค่ะ