ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา
แล้วก็ถึงวันนี้ที่รอคอย คือ วัน สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา (20 สิงหาคม 2555) หลังจากที่รอคิวสัมภาษณ์มานานร่วมสองเดือน วันนี้พวกเราพยายามไปกันตั้งแต่เช้า เพราะได้คิวตอนช่วง 8 โมง ที่สถานทูตเชียงใหม่ เราไปถึงที่ ถ.วิชยานนท์ ช้างม่อยประมาณตี 5 กว่า เรากับแม่เลยมีโอกาสใส่บาตรพระตอนเช้าแถวนั้น เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยด้วย เมื่อมาถึงยังสถานทูตคนก็เริ่มทยอยมาต่อคิวกันเยอะมากแล้ว ตอนนี้แม่ของเราดูท่าทางตื่นเต้นมากทีเดียว
เมื่อถึงเวลา ยามก็ตรวจสิ่งของต่างๆ ในกระเป๋า อะไรที่เอาเข้าไม่ได้เค้าก็จับใส่ถุงพลาสติกทันทีค่ะ ช่วงนี้เราก็ตื่นเต้นและลุ้นแทนแม่ไปด้วย เพราะดูหลายคนถูกค้น ริบ น้ำ, ลูกอม, ยาดม ,ยาลม ยาหม่อง มีคุณป้า คุณยาย หลายคน มีการออดอ้อนขอยาดม ติดตัวไปด้วยเผื่อเป็นลมระหว่างรอสัมภาษณ์ ยามเค้าก็ยังไม่อนุญาติค่ะ แหม ช่างเคี่ยวซะเหลือเกิน
และพอด่านต่อมาแม่เล่าว่า มาเจอน้อง 2 คนที่คอยตรวจเอกสารต่างๆเพื่อนำเข้าแฟ้ม ก็จะมี
- พาสปอร์ต
- ใบ Confirmation ที่มีรูปถ่ายด้วย
- ใบเสร็จจ่ายค่าวีซ่า
- ใบเสร็จซื้อ Pin
- ซองไปรษณีย์
- รูปถ่าย
เมื่อน้องสองคน รวบรวมเอกสารแม่เราแล้ว เค้าก็บอกว่า “คุณป้า รูปถ่ายของคุณป้าไม่ได้มาตรฐาน ฉากหลังมันเป็นสีขาวขุ่นๆ ทำให้ มันสแกนไม่ผ่าน คุณป้าต้องไปถ่ายรูปใหม่ค่ะ ถ่ายรูปเสร็จแล้วคุณป้ามาต่อคิวใหม่ได้นะค่ะ” แม่ถึงกับอึ้งไม่คิดว่าจะมาเจอปัญหาเรื่องรูปถ่ายแบบนี้ อุตส่าห์คิดว่าช่างถ่ายรูปมีประสบการณ์ถ่ายรูปวีซ่าอเมริกามามาก ตามที่ช่างเค้าคุยไว้
เมื่อตั้งสติได้แล้วพวกเราก็รีบมาถ่ายรูปที่ร้านที่อยู่ใกล้กับสถานทูตนี้หล่ะค่ะ กลับเข้ามาอีกทีก็ประมาณ 9 โมงกว่า น่าเสียดายเหมือนกันแทนที่จะได้คิวแรกๆๆ คราวนี้ต้อง รอ และรอต่อไป
หลังจากที่ผ่านการตรวจเอกสารด่านแรกไปแล้ว ส่วนหลักฐานอื่นๆ แม่เราต้องถือเก็บไว้เองค่ะ (เราและน้องสาวที่อยู่อเมริกาช่วยกันเตรียมเอกสารให้แม่นานมากและเยอะมาก เพราะเราก็คิดว่าเอาไปเยอะๆ ไว้ก่อนดีที่สุด เผื่อเหลือดีกว่าขาด เพราะงั้นเราก็พยายามจะหาหลักฐานที่เกี่ยวกับแม่ไปให้มากที่สุด)
และทีนี้ก็มาถึงตอนสัมภาษณแล้วค่ะ แม่เล่าว่ากว่าจะได้สัมภาษณ์ก็เกือบ บ่าย สอง เจอ จนท.ผู้ชายฝรั่งท้วมๆ เค้าเข้ามาทักทาย พูดไทยชัดมาก และให้แม่พิมพ์ลายนิ้วโป้งสองข้างค่ะ
จากนั้นก็เริ่มสัมภาษณ์ บทสนทนาก็ประมาณนี้ค่ะ
จนท.: คุณชื่อ………..ใช่มั้ยครับ
แม่ : ใช่ค่ะ
จนท.: คุณจะไปอเมริกาทำไมครับ
แม่ : ไปเที่ยวเยี่ยมลูกสาวที่อเมริกา
จนท.: ลูกสาวทำอะไรอยู่ที่นั่น
แม่ : ลูกสาวเรียนอยู่ค่ะที่ …………………. ดูเอกสารมั้ยค่ะ?
จนท. : คุณจะไปอเมริกา นานเท่าไหร่
เรา : ไปแค่ 2 อาทิตย์ ไปนานไม่ได้ไม่ชอบอากาศหนาวและห่วงหลานด้วย
จนท. คุณไปกับใคร
เรา : ไปกับเพื่อนค่ะ
จนท. : เพื่อนคุณได้วีซ่าหรือยัง
เรา : กำลังทำเรื่องอยู่ค่ะ
จนท.: คุณทำงานอะไร
แม่ : เป็นแม่บ้าน หน้าที่ดูแลสามี ลูกและหลาน
จนท. : ใครออกค่าใช้จ่ายให้คุณ
เรา : ออกเองบางส่วน และสามีช่วยออกให้ด้วยค่ะ
จนท. : คุณจะไปพักที่ไหน
เรา : พักที่โรงแรมค่ะ ดูเอกสารมั้ยค่ะ
จนท.: คุณเคยไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
แม่ : ไม่เคยไปต่างประเทศ ส่วนใหญ่เที่ยวในไทยค่ะ
จนท: ขอโทษนะครับ “ วีซ่าไม่ผ่าน”
หลังจากที่แม่สัมภาษณ์เสร็จและออกมาด้วยสีหน้าปนเศร้า เราก็รู้ได้ทันทีที่ว่า แม่ไม่ผ่าน แต่ก็พยายามปลอบแม่ว่าไม่เป็นไร เราอาจจะยังไม่พร้อมในหลายๆเรื่อง เจ้าหน้าที่เค้าถึงไม่ให้ผ่าน เราสามารถมาทำเรื่องใหม่ครั้งหน้า เราก็บอกแม่ด้วยว่า วันนี้มีหลายคนสัมภาษณ์ไม่ผ่านเหมือนกัน บางคนเคยมาแล้ว 2-3 รอบ ก็ยังไม่ผ่าน แม่แค่มาครั้งแรก ครั้งนี้ถือเป็นการลองสนามสอบแล้วกัน
เท่าที่วิเคราะห์ดูในการสอบสัมภาษณ์วีซ่าไม่ผ่านครั้งนี้ น่าจะมาจาก
1. แม่เป็น แม่บ้าน ไม่ได้มีงานประจำอะไร รวมถึงแม่เรายังอายุไม่ถึง 60 ยังดูไม่แก่มาก อาจจะไปลักลอบทำงานในอเมริกาก็เป็นได้
2. ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แม่ยังเป็นคนออกด้วยตัวเองบางส่วนด้วย ทั้งๆที่ไม่มีงานประจำแล้วเอาเงินมาจากไหน (ตามจริงก็เป็นเงินของแม่เองหล่ะค่ะ จากการขายที่ ขายนา แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ขอดูเอกสารอะไรเลย)
3. รวมถึงเพื่อนที่แม่จะไปด้วย ก็ยังไม่ได้รับวีซ่า แต่อย่างใด และแม่ไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหนเลยด้วย
4 แม่เราค่อนข้างประหม่าในการตอบคำถาม อาจจะตอบคำถามได้ไม่ดีพอ ดูไม่น่าเชื่อถือ
เราอยากให้เรื่องราวการสัมภาษณ์วีซ่านี้ เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนได้เตรียมตัวกันให้พร้อม
ถึงแม้การสัมภาษณ์ครั้งนี้จะไม่ผ่าน แต่เราและแม่ก็ได้รู้แล้วว่า การสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาเป็นอย่างไร และต้องเตรียมเอกสารและการตอบคำถามให้รัดกุมมากขึ้นไปกว่าเดิม ยังไงก็ยังไม่หมดความพยายาม และพร้อมที่จะมาสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาอีกครั้งให้จงได้
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาค่ะ