ทำความรู้จัก Canva คืออะไร ? พร้อมจุดเด่นที่ทำให้การออกแบบกลายเป็นเรื่องง่าย ที่ใครๆ ก็ทำได้
เมื่อพูดถึงงานกราฟิก หลายคนคงจะส่ายหัว เพราะรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นงานที่สามารถทำเองได้ ไปหากราฟิกมืออาชีพมาทำให้น่าจะดีกว่า ซึ่งก็ต้องยอมรับการจะทำกราฟิกสักชิ้นมันก็ยากจริงๆ ไหนจะต้องออกแบบ กำหนดโทนสี จัดวางองค์ประกอบ เลือกรูปภาพ เลือกแบบตัวอักษร ฯลฯ แต่ปัจจุบันนี้มีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ชื่อว่า Canva ที่พร้อมทำทุกอย่างที่ว่ามานี้ให้ ราวกับมีทีมงานกราฟิกส่วนตัว ที่สำคัญฟรีด้วย ! ใครสนใจ บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า Canva คืออะไร รวมถึงวิธีใช้งาน และข้อดี-ข้อเสีย ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
หัวข้อเรื่อง
Canva คืออะไร ?
Canva คือแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ช่วยให้การออกแบบเป็นเรื่องง่ายดายและรวดเร็ว แม้แต่คนที่ออกแบบไม่เป็น หรือไม่เคยทำงานออกแบบมาก่อน ก็สามารถสร้างผลงานออกมาได้สวยงามเหมือนมืออาชีพ ใช้ในการออกแบบงานกราฟิกได้แทบทุกชนิด เช่น โปสเตอร์ นามบัตร โลโก้ ใบปลิว สร้างคอนเทนต์ลงสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ หรือการพรีเซนต์งานให้น่าสนใจ โดยเปิดให้ทุกคนใช้งานได้ฟรี ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือและเว็บไซต์ หากคุณไม่รีบเร่งจนต้องส่งงานขณะอยู่นอกบ้าน แนะนำให้ใช้งานบนเว็บไซต์จะสะดวกกว่า เพราะสามารถมองเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้ชัดเจน แก้ไขและจัดวางองค์ประกอบได้คล่องตัวกว่า นอกจากนี้ยังสามารถแชร์ผลงาน ให้เพื่อนร่วมทีมสามารถเข้ามาทำงาน แก้ไข หรือคอมเมนต์ พร้อมกันได้แบบเรียลไทม์
วิธีใช้ Canva ฟรี ทำอย่างไร ?
เมื่อทราบแล้วว่า Canva คืออะไร หลายคนคงอยากจะลองใช้งานกันแล้ว วิธีการนั้นก็ง่ายมากๆ เพียงแค่ทำตามขั้นตอน ดังนี้ค่ะ
- เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.canva.com/th_th/
- สมัครใช้งานฟรี โดยใช้เพียงแค่อีเมล หรือจะลงทะเบียนผ่านบัญชี Google หรือ Facebook ก็ได้
- หากสมัครด้วยอีเมล ระบบจะส่งรหัส 6 ตัว มาให้ทางอีเมลที่กรอกไว้ เพื่อใช้ยืนยันตัวตน
- นำรหัสที่ได้มากรอก และกดดำเนินการต่อ
- ระบบจะถามว่าคุณต้องการใช้ Canva เพื่ออะไร เช่น ใช้เพื่อสร้างผลงานส่วนตัว ใช้ในการเรียน สร้างสื่อสำหรับการทำธุรกิจ ฯลฯ กดตัวเลือกที่ตรงกับคำตอบของคุณได้เลย
- ระบบจะถามว่าคุณต้องการทดลองใช้ Canva Pro ฟรีหรือไม่ ? ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Canva Pro เป็นฟังก์ชันเสริม ที่ทำให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ หรือมีตัวเลือกในการใช้งานที่มากขึ้น เช่น รูปแบบ รูปภาพ ฟอนต์ตัวหนังสือ ที่จำกัดให้ใช้เฉพาะ Canva Pro เท่านั้น แต่เฉพาะส่วน Canva ฟรี ก็มีตัวเลือกที่เยอะและหลากหลายมาก เพราะฉะนั้นแนะนำให้ลองใช้งานแบบทั่วไปก่อน หากต้องการสมัคร Canva Pro ก็สมัครภายหลังได้ หรือทดลองใช้งาน Canva Pro ได้เลยฟรี เป็นเวลา 30 วัน
Canva มีจุดเด่นอย่างไร ?
- มีรูปแบบ Template ให้เลือกมากกว่า 250,000 แบบ แม้จะเป็นการใช้งาน Canva ฟรี
- Template ต่างๆ ถูกแยกเป็นหมวดหมู่ให้ใช้งานง่าย โดยแบ่งได้มากกว่า 100 หมวด เช่น Instagram Post, Instagram Stories, Facebook Post, Presentation, Letter, Poster, Resume, Label หรือแม้แต่การออกแบบลวดลายบนสินค้าต่างๆ เช่น เสื้อ, กระเป๋า, แก้วน้ำ ฯลฯ
- มีรูปภาพ รวมถึงไอคอน ให้เลือกมากมาย เพียงแค่พิมพ์คำที่ต้องการและกดค้นหา รูปทั้งหมดก็จะขึ้นมาให้เลือก และนำไปใส่ผลงานได้ง่ายๆ ด้วยการลากและวาง หรือ Drag & Drop
- สามารถปรับแก้ทุกส่วนในชิ้นงานได้อย่างง่ายดาย เพื่อสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์ในสไตล์ของตัวเอง
- ขนาดของชิ้นงานถูกกำหนดมาให้เหมาะสม จึงไม่ต้องปรับแก้อีก
- การจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ในชิ้นงาน สามารถกะระยะได้ง่าย โดยจะมีตัวเลขขึ้นมาให้แบบอัตโนมัติ เหมือนมีไม้บรรทัดมาวัดให้ ทุกส่วนจึงออกมาดูสมดุล เป็นระเบียบ เท่ากัน
- สามารถปรับแต่งรูปภาพใน Canva ได้เลย ไม่ต้องใช้แอปพลิเคชันอื่นอีก เช่น ปรับความสว่าง, ความคมชัด, ใส่ Filter หรือ Effect ต่างๆ
- รองรับตัวหนังสือภาษาไทย และมีฟอนต์ให้เลือกเยอะมาก ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
- สามารถทำงานร่วมกับเพื่อน หรือทำงานเป็นทีมได้แบบเรียลไทม์ ไม่ต้องเสียเวลาส่งงานไปมา
- ผลงานที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้หลายแบบ เช่น .pdf .png .jpg
ข้อดีและข้อเสีย ของ Canva
ข้อดี :
- ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานในการออกแบบหรือทำกราฟิกมาก่อน ก็สามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมราวกับเป็นมืออาชีพ
- ใช้กับงานออกแบบได้หลากหลายประเภท
- ใช้งานได้ฟรี ไม่จำเป็นต้องเสียเงินสักบาท
- ประหยัดเงิน ไม่ต้องเสียค่าจ้างกราฟิกดีไซเนอร์
- สามารถใช้งานได้ทั้งบนมือถือ และคอมพิวเตอร์ โดยข้อมูลทั้งหมดจะเชื่อมต่อถึงกัน ไม่ต้องเสียเวลาส่งหรือถ่ายโอนข้อมูล
- ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงานร่วมกับทีม และทำให้งานเสร็จไวขึ้น
ข้อเสีย :
- ฟีเจอร์บางอย่าง รวมถึงรูปภาพและไอคอนบางอัน ต้องเสียเงิน หรือสมัคร Canva Pro จึงจะใช้ได้
- มีฟอนต์ไทย แต่จำนวนจำกัด และไม่แสดงผลให้เห็นทันทีในช่องตัวเลือกฟอนต์ จึงต้องค่อยๆ กดดูทีละอัน ซึ่งจะเสียเวลา แนะนำให้หาชื่อฟอนต์ที่ต้องการ และพิมพ์ในช่องค้นหาฟอนต์จะง่ายกว่า
- Template จะกำหนดขนาดมาตรฐานที่เหมาะสมกับชิ้นงานแต่ละประเภทมาให้ ซึ่งหากต้องการแก้ไขขนาด จะต้องเสียเงินสมัคร Canva Pro
- หากคุณไม่ปรับแต่งชิ้นงานเลย ก็มีโอกาสที่ผลงานของคุณจะไปซ้ำกับคนอื่นได้
โดยรวมแล้ว Canva ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ค่อนข้างสะดวกและตอบโจทย์มากสำหรับงานออกแบบทุกประเภท ไม่เพียงแต่มือสมัครเล่นเท่านั้น แต่มืออาชีพหลายคนก็หันมาใช้ Canvaเพื่อช่วยในการออกแบบ หรือหาแรงบันดาลใจในการทำงานด้วยเช่นกัน ส่วนข้อเสียของ Canva นั้น มักเป็นข้อจำกัดจากการใช้งาน Canva ฟรี มากกว่า ถ้าเสียเงินเพิ่มอีกหน่อยก็เรียกได้ว่าแทบไม่มีข้อเสียเลย และหากเทียบกับการต้องเสียเงินจ้างกราฟิกดีไซเนอร์สักคนก็ถือว่าประหยัดกว่ามาก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Canva
ถาม : Canva เป็นโปรแกรมชนิดใด ?
ตอบ : จะบอกว่า Canva เป็นโปรแกรมก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะ Canva สามารถใช้งานออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ได้เลย โดยไม่ต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งโปรแกรมลงบนเครื่อง จุดประสงค์หลักคือเป็นตัวช่วยในการออกแบบงานกราฟิกต่างๆ ให้สะดวกสบายมากขึ้น โดยมีTemplate หรือโครงร่างต้นแบบมาให้ ผู้ใช้งานก็สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ตามชอบ
ถาม : Canva ทำอะไรได้บ้าง ?
ตอบ : Canva สามารถใช้ในงานออกแบบกราฟิกได้ทุกรูปแบบ ตั้งแต่การใช้งานส่วนตัว เช่น สร้างรูปภาพสวยๆ ลงบนโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram, Tiktok ไปจนถึงการใช้งานในเชิงธุรกิจ เช่น การทำ Presentation, สร้าง Infographic, ออกแบบสื่อโฆษณา, โปสเตอร์, โปสต์การ์ด, ใบปลิว, สติกเกอร์, ฉลากผลิตภัณฑ์, ปฏิทิน, บัตรเชิญ ฯลฯ เรียกว่าครอบคลุมแทบทุกอย่าง
ถาม : เครื่องมือ Canva มีอะไรบ้าง ?
ตอบ : หลังจากกดเลือก Template ที่ต้องการแล้ว จะมีกล่องเครื่องมือขึ้นมาทางด้านซ้าย ซึ่งประกอบไปด้วย
- Design ใช้ปรับแต่งรูปแบบ และโทนสี
- Elements ใช้ค้นหาไอคอน หรือรูปต่างๆ สำหรับตกแต่งเพิ่มเติม
- Text ใส่ตัวหนังสือลงบนชิ้นงาน
- Uploads อัปโหลดรูปภาพที่เราต้องการใช้
- Draw วาดรูปหรือขีดเขียนลงบนชิ้นงาน
- Apps รวมฟังก์ชันการใช้งานอีกมากมาย เช่น ใส่เพลง, ใส่วิดีโอ, สร้าง QR Code ฯลฯ
ถาม : ขั้นตอนแรกในการสมัครแอพ Canva คืออะไร ?
ตอบ : การสมัครแอพ Canva ไม่ต่างจากการสมัครบนเว็บไซต์ เมื่อโหลดแอพ Canva มาแล้ว ขั้นตอนแรกคือการลงทะเบียนผ่านอีเมล หรือเชื่อมต่อกับ Google หรือ Facebook จากนั้นก็เริ่มใช้งานได้เลย
ถาม : Canva Pro ราคาเท่าไหร่ ?
ตอบ : 1,850 บาท ต่อปี หรือเฉลี่ยเดือนละประมาณ 155 บาทเท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
เปิดเคล็ดลับ เรียนภาษาอังกฤษ อย่างไรให้เก่งเร็ว ไม่มีพื้นฐานก็พัฒนาได้แบบก้าวกระโดด
3 เว็บสุดเจ๋ง เช็คแกรมม่า ออนไลน์ฟรี ตรวจเร็ว แก้ไว ใช้เวลาไม่ถึงนาที
บอกลาความโสด ! เปิด 6 เทคนิค หาแฟนต่างชาติ วาเลนไทน์ปีนี้ไม่เหงาแน่นอน
โอนเงินจากต่างประเทศมาไทย แบบไหนดี รวดเร็ว ปลอดภัยที่สุด ปี 2023
งานออนไลน์ได้เงินจริง Fastwork VS Fiverr งานออนไลน์ในไทย หรืองานออนไลน์ต่างประเทศ แบบไหนดีกว่ากัน ?
Fastwork แหล่งรวมฟรีแลนซ์ และ งานออนไลน์ ที่มากที่สุดในประเทศไทย
GoGoAmerica.com เว็บรวมหลากหลายเรื่องราวน่ารู้ใน อเมริกา ทั้ง วัฒนธรรม อาหาร ชีวิตความเป็นอยู่ หางานอเมริกา สถานที่ เที่ยวอเมริกา สำหรับคนไทยที่มีเป้าหมายในอเมริกาไม่ควรพลาด