4 ขั้นตอน ซื้อรถในอเมริกา รวมทุกอย่างที่ต้องรู้ ตั้งแต่เริ่มจนได้รถพร้อมขับ
ประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ถ้าจะเปรียบเทียบให้พอเห็นภาพ ก็ใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 18 เท่าเลยทีเดียว การจะเดินทางไปไหนมาไหนในอเมริกาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีแค่เมืองใหญ่ๆ อย่างนิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย ชิคาโก บอสตันซานฟรานซิสโก ฯลฯ เท่านั้นที่ระบบขนส่งสาธารณะสะดวกสบาย มีทั้งรถประจำทาง รถไฟ และรถไฟใต้ดิน แต่บางเมืองถ้าไม่มีรถก็เดินทางลำบากมาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะเห็นคนอเมริกันส่วนใหญ่มีรถกันเกือบทุกบ้าน เพราะฉะนั้นใครที่วางแผนจะย้ายมาอยู่อเมริกา ไม่ว่าจะมาเพื่อเรียนต่อ ทำงาน หรือแต่งงาน ก็ควรจะศึกษาเรื่องการซื้อรถเอาไว้ด้วย บทความนี้จึงจะพาทุกคนไปพบกับ 4 ขั้นตอนสำคัญที่ในการ ซื้อรถในอเมริกา จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
Table of contents
ใบขับขี่
จริงๆแล้ว การซื้อรถที่อเมริกาโดยไม่มีใบขับขี่ ทำได้โดยไม่ผิดกฎหมายนะคะ แต่ตอนจะขับรถที่ซื้อกลับบ้าน จำเป็นจะต้องวานคนที่มีใบขับขี่ช่วยขับรถให้ ต้องให้เขาช่วยทำประกันรถให้ และยังต้องให้เขาช่วยขอป้ายทะเบียนรถด้วย รถที่เราซื้อมาจะกลายเป็นของเขาตอนนั้นไปโดยปริยายนะคะ นอกจากนี้หากเราจะซื้อรถตามดีลเลอร์ต่างๆ โดยมากเค้าจะขอหลักฐานใบขับขี่ของผู้ซื้อ เพราะฉะนั้นก่อนจะ ซื้อรถในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นรัฐไหนก็ตาม สิ่งแรกที่ควรต้องมีคือ ใบขับขี่ค่ะ
ถ้าหากจะอธิบายเรื่องการยื่นขอใบขับขี่คงจะยาวนานเกินไป หากใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติมให้ดูตาม link ด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ
- DMVVATest.com เคล็ดไม่ลับ เมื่อต้อง สอบใบขับขี่ในอเมริกา
- ประสบการณ์หฤโหดใน การสอบใบขับขี่ที่ DMV อเมริกา
- เทคนิคการสอบข้อเขียนใบขับขี่ในอเมริกา (DMV Written Test)
- ใบขับขี่ในอเมริกา (Driver license ) สำคัญอย่างไร และมีขั้นตอนอย่างไร
เลือกรถที่ต้องการ
สำหรับคนที่มีงบประมาณมากหน่อย อาจจะเลือกซื้อรถมือหนึ่ง ซึ่งสามารถเช็กดูรายละเอียด เช่น รุ่น สี ยี่ห้อ หรือ Option ต่างๆ รวมถึงเปรียบเทียบราคาได้ที่เว็บไซต์ เมื่อได้แบบที่พอใจแล้วค่อยไปที่ดีลเลอร์ เพราะหากตรงไปที่ดีลเลอร์เลย อาจจะได้ราคาที่แพงกว่า หรือได้รถไม่ตรงตามสเปกที่ต้องการ
ส่วนคนที่มีงบประมาณจำกัด รถมือสองก็เป็นตัวเลือกที่นิยมมากในการซื้อรถในอเมริกา ร้านขายรถมือสอง (Used Car) มีอยู่มากมายในอเมริกา เช่น Car Max มีรถให้เลือกหลากหลายมากแทบทุกยี่ห้อ โดยเฉพาะรถญี่ปุ่น ซื้อง่าย ขายคล่อง ราคาค่อนข้างถูก คุณภาพดี ทนทาน ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกกวนใจ ค่าซ่อม หรือค่าอะไหล่ก็ไม่แพงเท่ารถยุโรปด้วย รถที่สภาพดีหน่อยราคาจะอยู่ที่ประมาณหลักพันเหรียญไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งก็สามารถกดเลือกดูบนเว็บไซต์ได้เช่นกัน แต่ที่สำคัญก็คือต้องเช็กประวัติ และรายละเอียดให้ดี ทดลองขับว่าเครื่องยนต์ และส่วนประกอบต่างๆ ยังทำงานได้ดีไหม ซื้อมาขับแล้วจะไม่เกิดปัญหา อย่างไรก็ตาม ร้านรถมือสองที่เป็นเจ้าใหญ่ในอเมริกาเช่น CarMax จะมีรับประกันอย่างน้อย 3 เดือน ซ่อมฟรีหากเกิดปัญหา
แต่หากใครดูรถไม่เก่ง หรือไม่มั่นใจ ก็สามารถจ้าง Pre-Purchase Car Inspections ให้ไปช่วยตรวจสภาพรถได้ค่ะ ค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 100 เหรียญ
กรณีที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับการซื้อรถในอเมริกาคือ รถ Salvage Title และ Rebuilt Title ซึ่งเป็นรถที่เกิดอุบัติเหตุ โดนชน หรือได้รับความเสียหาย แต่ค่าซ่อมแพงมากเกือบเท่าราคารถ จึงถูกนำมาขายทอดตลาด ผู้ซื้อก็นำไปซ่อมแซม ทำเรื่องส่งตรวจ และนำมาขายตามสภาพในราคาถูก ถ้าหากจะซื้อจริงๆ แนะนำให้เช็กประวัติใน https://www.carfax.com/ โดยกรอกรหัส VIN (Vehicle Identification Number) หรือรหัสตัวถังรถ จะปรากฏข้อมูลทั้งหมด เช่น เจ้าของเก่า ประวัติการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนไมล์ เป็นต้น
ทำประกันภัย
ที่ประเทศไทยเราจะทำประกันรถยนต์หรือไม่ก็ได้ แต่ตามกฎหมายอเมริการถทุกคันต้องมีประกัน ดังนั้นไม่ว่าจะซื้อรถในอเมริกาแบบมือหนึ่ง หรือมือสอง ก็ต้องทำประกันด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ทางศูนย์ดีลเลอร์ เขาก็จะเสนอให้อยู่แล้ว แต่จะไปซื้อเองทีหลังก็ได้ ค่าเบี้ยประกันจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น อายุ เพศ ยี่ห้อรถ อายุของรถ ประเภทใบขับขี่ ประวัติการขับขี่ เป็นต้น โดยหลักๆ แล้วจะมีประกันให้เลือก 2 ประเภท คือ
- Full-Coverage หรือพูดง่ายๆ ก็คือประกันชั้นหนึ่ง ค่าเบี้ยประกันสูง แต่ก็คุ้มครองความเสียหายแบบครอบคลุมหมดทุกกรณี ประกันช่วยจ่ายให้หมด
- Liability หรือที่เมืองไทยเรียกว่าประกันชั้น 3 เป็นประกันขั้นต่ำที่ต้องมี ให้ความคุ้มครองบุคคลภายนอกหรือคู่กรณี หากเราเป็นฝ่ายผิด ประกันก็จะจ่ายค่าเสียหายให้คู่กรณี แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายถูก ประกันของคู่กรณีจะเป็นคนจ่ายค่าเสียหายให้เรา ส่วนใครที่ไม่มีประกัน แน่นอนว่าจะต้องเสียค่าปรับ แถมยังต้องออกค่าซ่อมให้คู่กรณีเองด้วย ซึ่งบอกเลยว่าค่าซ่อมที่อเมริกาแพงมาก
จดทะเบียนรถ
มาถึงขั้นตอนสุดท้ายสำหรับการ ซื้อรถในอเมริกา นั่นก็คือการจดทะเบียนรถ หากขับรถโดยไม่มีป้ายทะเบียนจะถือว่าผิดกฎหมาย อาจถูกปรับและยึดรถได้เลย ในกรณีที่ซื้อรถใหม่มือหนึ่ง สามารถให้ทางศูนย์ดีลเลอร์ทำเรื่องจดทะเบียนให้ได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วย
ส่วนคนที่ซื้อรถมือสองมา จะยุ่งยากกว่าหน่อย เพราะต้องไปจดทะเบียนเอง เมื่อได้ป้ายทะเบียนแล้วจึงจะสามารถนำรถออกมาขับได้ แต่หากซื้อจากดีลเลอร์ เขาก็อาจจะให้ป้ายทะเบียนแบบชั่วคราวมาก่อน เพื่อให้ขับรถได้ระหว่างที่ยังไม่มีป้ายจริง แต่สุดท้ายอย่างไรก็ต้องทำอยู่ดี และแต่ละรัฐก็มีกำหนดระยะเวลาในการโอนที่ต่างกันด้วย เพราะฉะนั้นรีบดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยจะดีที่สุด โดยให้ไปยื่นเรื่องที่ Department of Motor Vehicles (DMV)เอกสารและเงื่อนไขอาจแตกต่างกันในแต่ละรัฐ แต่โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วย
- Title หรือเล่มทะเบียน โดยเจ้าของรถเดิมต้องเซ็นโอนรถกำกับไว้ด้วย
- Bill of Sale หรือ ใบซื้อขาย
- เอกสารยืนยันที่อยู่ 2 ฉบับ
- ใบขับขี่
- ประกันภัย
- เอกสารอื่นๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละรัฐ เช่น ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ต้องผ่านการทดสอบการปล่อยไอเสีย หรือ Emission Test ก่อน หากเจ้าหน้าที่เช็กในระบบแล้วพบว่าไม่ได้ตรวจ จะไม่สามารถโอนรถได้
- ค่าธรรมเนียมและภาษี
การซื้อรถในอเมริกา ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางได้มาก แต่หากถามว่าจำเป็นไหม ก็ขึ้นอยู่กับว่าอยู่เมืองอะไร และวางแผนจะอยู่นานแค่ไหน หากคิดว่าจะอยู่ยาว ซื้อรถไว้ก็ค่อนข้างคุ้ม เพราะราคาถูกกว่าเมืองไทย แต่ค่าซ่อมจะแพงกว่า จึงควรขับขี่ด้วยความไม่ประมาท และอย่าลืมศึกษากฎระเบียบหรือข้อบังคับในการใช้รถใช้ถนนของอเมริกาเอาไว้ด้วย เพราะกฎหมายของที่นี่แรง และค่าปรับก็แพงมากเช่นกันค่ะ
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการ ซื้อรถในอเมริกา
ถาม ควรจะซื้อรถมือสองที่ใช้งานไม่เกินกี่ไมล์?
ตอบ 100,000 ไมล์ถือเป็นจุดตัดสำหรับรถยนต์มือสอง เนื่องจากรถยนต์รุ่นเก่ามักเริ่มต้องบำรุงรักษาราคาแพงและบ่อยครั้งขึ้นเมื่อระยะทางเกิน 100,000 ไมล์
ถาม การที่รถเลขไมล์ต่ำดีกว่ารถที่มีอายุน้อยหรือไม่?
ตอบ หากคุณกำลังมองหาการลงทุนระยะยาว สิ่งสำคัญคือต้องเน้นไปที่เลขไมล์ของรถ การซื้อรถเลขไมล์ต่ำหมายความว่าคุณจะสามารถขายรถได้ง่ายกว่า
ถาม ซื้อรถในอเมริกา เดือนไหนดีที่สุด?
ตอบ เวลาซื้อรถที่จะได้ราคาดีที่สุดของปี คือเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม เพราะตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มีโควตาการขาย ซึ่งโดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นเป้าหมายการขายรายปี รายไตรมาส และรายเดือน เป้าหมายทั้งสามจะมารวมกันในช่วงปลายปี เมื่อผู้ขายจะอยากได้ยอดดีๆ เลยมีแนวโน้มจะลดราคาเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้ซื้อค่ะ
ถาม ต้องมีคะแนนเครดิตเท่าไหร่ ถึงจะสามารถวางเงินดาวห์ซื้อรถยนต์ราคา $50,000
ตอบ ตั้งแต่ 661 ขึ้นไป
บทความที่เกี่ยวข้อง ซื้อรถในอเมริกา
โอนเงินจากต่างประเทศมาไทย แบบไหนดี รวดเร็ว ปลอดภัยที่สุด ปี 2023
5 หลักการ ขับรถในอเมริกา
เจาะลึกเบื้องหลังการทำงาน Hostess คือ ใคร มีหน้าที่อะไรบ้างในร้านอาหาร
10 เคล็ดไม่ลับ เที่ยวอเมริกาด้วยตัวเอง
เดินทางถูกใจกับ 10 เว็บไซต์หาตั๋วเครื่องบินในอเมริกา
GoGoAmerica.com เว็บรวมหลากหลายเรื่องราวน่ารู้ใน อเมริกา ทั้ง วัฒนธรรม อาหาร ชีวิตความเป็นอยู่ หางานอเมริกา สถานที่ เที่ยวอเมริกา สำหรับคนไทยที่มีเป้าหมายในอเมริกาไม่ควรพลาด