ประสบการณ์สุดมันส์ในอเมริกา

ประสบการณ์หฤโหดใน การสอบใบขับขี่ที่ DMV อเมริกา

ณ ดินแดนอันไกลโพ้น ดินแดนอันศรีวิไลซ์ที่ใครๆต่างหมายปองว่าจะต้องมาอยู่ให้ได้ซักครั้งในชีวิต คือ ประเทศ อเมริกา เป็นประเทศที่ขอวีซ่าก็แสนจะยากลำบากแล้ว การทำใบขับขี่ที่นี่ก็ยากแสนยากไม่แพ้กัน (เอ๊ะ หรือชั้นคิดเองคนเดียว ? ) 

โอเค เริ่มเลยละกัน จะขอเท้าความก่อนว่า เราก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่แสนจะบอบบางร่างน้อยคน
นึงที่อยากมาตามหาความฝัน จินตนาการ และแรงบันดาลใจที่นี่………. ฟังแล้วดูดีจังแฮะ จริงๆแล้วก็แค่เบื่อหน่ายการงานที่ไทยที่ทำมาปีนึง แล้วอยากจะเที่ยวเล่น ฝึกภาษาต่อก็แค่นั้นเองแหละ โดยมีพี่สาวที่เรียนโทที่นี่เป็นคนคอยจัดแจงหาที่เรียนที่อยู่ให้ เลยผ่านวีซ่า F1 (วีซ่านักเรียน) มาได้อย่างสบายบรื๋อ (ขอบคุณนะฮ้า)

ที่ที่อยู่คือ รัฐ Virginia ซึ่งเป็นรัฐที่ค่อนข้างอยู่นอกเมือง โดยบ้านแถวที่อยู่นั้น ไม่มี bus ไม่มี subway การสัญจรเดินทางเลยจำเป็นต้องมีรถขับเท่านั้น!! และที่ Virginia จะใช้ใบขับขี่แบบ international แบบที่ทำจากไทยไม่ได้นะจ๊ะ ต้องทำใหม่จ่ะ เพราะกฎการจราจรของที่นี่ไม่เหมือนบ้านเรา เอาละฟะ ในไทยชั้นยังขับได้แล้วเลย (เพิ่งทำใบขับขี่มาเมื่อ 2 เดือนก่อนจะมา) การสอบใบขับขี่ที่นี่มันจะยากอาร้ายย ใครๆก็บอกกันว่าที่นี่ขับง่ายมั่กมาก……. ฮึ สอบใบขับขี่ที่นี่หมูๆ ชั้นผ่านอยู่แล้วละย่ะ กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ 

การสอบใบขับขี่ที่นี่ก็จะแบ่งเป็นการสอบข้อเขียน กับ สอบปฏิบัติเหมือนในบ้านเรา แค่เพียงไม่ต้องมีอบรมเท่านั้น โดยเริ่มจากเตรียมตัวสอบข้อเขียน ก็ดูตัวอย่างข้อเขียนจากในบล็อกนี้เนี่ยแหละ เพื่อนพี่สาว กับ พี่สาวเป็นคนทำแล้วจัดแจงมาให้ฝึก โฮะๆนี่ชั้นช่างเป็นคนโชคดีซะจริงเลย ไม่ต้องมานั่งหาเองให้เมื่อยตุ้ม เพื่อนพี่สาวบอกว่าถ้าทำตัวอย่างข้อเขียนได้หมด ก็ผ่านอยู่แล้นนน ไม่มีปัญหา (สบายตรู) 

พออ่านเสร็จแล้วก็เตรียมตัวจะไปสอบข้อเขียนละ โดยสถานที่จะไปสอบอยู่ในเขต Sterling แถวบ้าน ซึ่งขึ้นชื่อว่าพนักงานที่นี่ไม่ค่อย nice แต่ด้วยความที่มันใกล้บ้านแบบสุดๆ ขับรถไปแค่สิบนาทีก็ถึง เลยเลือกมาสอบที่นี่ (พนักงานไม่ nice แต่เรา nice ซะอย่างไม่มีปัญหา โฮะโฮะ) 

และแล้วเมื่อจัดแจงหาเวลามาสอบได้ ขั้นตอนการสอบใบขับขี่ที่อเมริกาของชั้นก็ได้เริ่มต้นขึ้น ก่อนอื่นก็เตรียมเอกสารให้พร้อม มี Passport+Visa, I-20 , ใบที่อ้างอิงได้ว่าเรามีที่อยู่อยู่ที่นี่จริงๆ (เราใช้เอกสารของธนาคารที่เค้าส่งมาให้ที่บ้าน) , ใบขับขี่ของเมืองไทย (ถ้าคนที่ยังไม่เคยมีใบขับขี่ที่เมืองไทยจะไม่สามารถสอบปฎิบัติต่อเลยได้ ต้องรอให้ครบ 30 วันถึงจะกลับมาสอบปฎิบัติได้นะเออ เพราะฉะนั้นถ้าจะมานี่เตรียมสอบใบขับขี่ของไทยไว้ดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา) 

โอเช เอกสารพร้อม อ่านหนังสือพร้อม แต่งหน้าพร้อม เล็ทสะโก!! สถานที่สอบขับที่นี่จะเรียกย่อๆว่า DMV (Department of Motor Vehicles) จะเปิด แปดโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น วันนั้นมาถึงประมาณเก้าโมงกว่า วันนั้นคนไม่เยอะมาก ก็ไปเอาใบคิวกะเอาเอกสารมากรอก รอคิวประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงคิวเราแล้ว เจอเป็นเจ๊อินเดียๆคนนึงเป็นพนักงาน 

“ฮายย วันนี๋คุณจาทำอารายค๊า” (เพื่อได้อรรถรสในการอ่านขอแปลเป็นภาษาไทยเลยละกัน)
“อิชั้น จะมาสอบข้อเขียนฮ่า” ระหว่างนั้นเจ๊แกก็ตรวจเอกสารไป พอตรวจเสร็จก็บอกให้เราไปวัดสายตา… อ่าวเวรละตรู ลืมเอาแว่นสายตามา อ๊ากกก (สั้น75 กะ125 เลยไม่ชอบใส่แว่นเวลาปกติ) แต่เอาฟระลองดู
“อ่าน บรรทัดที่นึ่งนาก๊ะ” เจ๊แกบอก


“ เอ ดี……เค….. (ตัวไรฟะ พยายามหรี่ตามอง)…….”
“ทำมายคูนต้องหรี่ตาคะ”
“เอิ่ม จริงๆแล้ว ชั้นสั้นอยู่นิหน่อยนะค่ะ แต่ชั้นมองข้อสอบออกนะคะ”
“เอ่อ เสียใจด้วยหน่าก๊ะ คุณต้องกลับปายเอาแว่นของคูนมา เพราะนี่ถือเปนการสอบอย่างหนึ่งงง”
โอ้ว โนวววว….ด้วยความสะเพร่าของตัวเองเลยต้องกลับไปเอาแว่นแล้วรอคิวใหม่ สุดท้ายก้อผ่านเจ๊แกมาได้ เสียเวล่ำเวลาซะจริงเชียว 

นั่งรอสักพักเค้าก็เรียกไปสอบ เป็นการยืนสอบแบบตู้จิ้มๆ photohunt อ่ะแหละ จะมีข้อสอบแบ่งเป็น 2 part, partแรก สอบเกี่ยวกับเครื่องหมายสัญสักษณ์ มี10ข้อ ใน part นี้ห้าม!!ผิดแม้แต่ข้อเดียว ไม่เช่นนั้นคุณจะตกรอบทันที ไม่มีสิทธิ์ในการสอบ part ต่อไปด้วย…..ไอ่เราก็ยืนทำข้อสอบแบบตุ๊มๆต่อมๆโอ้ยใจเต้น (นึกเพลงของ girly berry อยู่ในใจ) ข้อสอบก็เหมือนที่ทำในตัวอย่างเด๊ะจนในที่สุดก็ฝ่าฟันผ่านมาได้ทั้งสิบข้อ เยี่ยม! 

ต่อมา part 2 เกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปในการขับรถ มี 25 ข้อ ผิดได้ไม่เกิน 4 ข้อ โอ้วว part นี้มันไม่หมูนะนี่ เพราะมันไม่ได้เหมือนกับตัวอย่างซะทีเดียว คำตอบคำถามอาจจะคล้าย แต่ก็จะมีหลอกลวงอำพรางเราอยู่บ้าง เลยไม่ชัวร์ไปซะเจ็ดข้อ แต่ก็มั่วอย่างมีหลักการ นี่เป็นไงหล่ะ สุดท้ายก็ผ่านจนได้ ฮูเร่ ผิดไปสองข้อ ซึ่งเป็นข้อที่ไม่ได้อ่านมา และไม่รู้จริงๆ…. โฮะๆความมั่นใจเริ่มสถิตในร่าง พร้อมแล้วที่จะ road test ต่อทันทีแต่พี่สาวเบรกไว้ซะก่อน บอกให้ไปฝึกถนนให้ชินแล้วค่อยมาสอบอาทิตย์หน้า…. โอเค อาทิตย์หน้าก็อาทิตย์หน้า แล้วเจอกัน DMV road test!! 


เอาหล่ะ อาทิตย์นึงผ่านไป หลังจากฝึกขับบนถนนมาแล้วอย่างโชกโชน เราก็พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม เอกสารพร้อม เตรียมตัวขับพร้อม แว่นตาพร้อม แต่งหน้าพร้อม(อันนี้ไม่เคยลืม) มาถึงเป้าหมายในเวลาเดิม แต่ว่าวันนี้คนเยอะชะมัดกว่าจะรอเรียกคิว ตรวจเอกสาร(เอกสารเหมือนเดิม แต่เพิ่มเอกสารของรถที่เราจะใช้สอบด้วย) ทดสอบสายตา กว่าจะเรียกไปทดสอบขับก็ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ในที่สุด เจ๊ผิวสีผมหยิกคนนึงก็มาเรียกไป เซ็นเอกสารนิดหน่อย แล้วก็เดินตามเจ๊แกไป อุตส่าห์เปิดประตูให้ แต้งกิ้วซักคำก็ไม่มี ชิ แล้วก็พาเจ๊เค้าไปที่รถของเรา 

“ เข้าปายที่รถ แล้วเปิดเครื่อง แต่อย่าเพิ่งสาต๊าดโรดนา” เจ๊แกสั่ง
“โอเคค่า” จัดแจงเปิดรถ แล้วเปิดเครื่อง
จากนั้นเจ๊แกก็ให้เปิด สัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย ขวา ไฟฉุกเฉิน ไฟหน้า กดแตร เหยียบเบรก จนมาถึง……
“ พุช เดอะ คาร์ รวีเว๊อซ” 

“?????” อึ้งอยู่สามวิ คิดๆอยู่ว่านี่เจ๊แกพูดอะไรห๊ะ ว๊อททท??
“ พุช เดอะ คาร์ รวีเว๊อซ” เจ๊แกเสียงดังขึ้น เอาละไงตรู ซวยแล้วตรู พี่สาวไม่ได้เทรนท่านี้มานี่หว่า นึกๆๆแปลว่าไรแปลว่าไร สำเนียงเจ็แกเราฟังไม่ออก เรามันโง่ววว เรามันก้อแค่ความรู้ภาษาอังกฤษด๊อกด๋อย ทำไงดีๆพยายามลองทำทุกอย่างที่ยังไม่ได้ทำ เหยียบคันเร่ง ปรับนู่นนี่ หมุนพวงมาลัย นู่นนี่ แอร้ยยย เจ๊แกมองเราด้วยความละเหี่ยเปลียใจ คงคิดว่าอีนี่มันทำอะไรของมัน

“คูน ม่ายข้าวจายที่ฉานพูด ช่ายม๊าย ฉานคงห้ายคุณขับม่ายด้ายนา”
“พลีส คือชั้นขอถามพี่สาวของฉันได้ไหมคะ คือฉันไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษอ่ะค่ะ T T” หน้าตาวิงวอนสุดพลัง

“ม่ายด้าย โคนสอบคือคูนม่ายช่ายพี่สาวคูน ปิดเครื่อง แล้วกลับ ชานไม่ให้คูนออกถนน” 
“……………….” เดินคอตกออกจากรถ ความมั่นใจที่จะมาสอบขับวันนี้มลายหายไปหมดสิ้น อุส่าห์รอคิวตั้งนาน ได้ขึ้นรถยังไม่ถึงห้านาทีเลย ต้องกลับเข้ามาละ ฮือ ไหนๆก็ไหนแล้ว ก็เลยถามเจ๊แกว่า คำนั้นมันสะกดยังไง เจ๊แกเลยเขียนให้ดูสรุปว่าคือ REVERSE โอ้วววว บ้านตูอ่านรีเวิส รีเวิส เฟ้ยยยสำเนียงตรูเป็นแบบนี้ เห็นใจตรูหน่อยยย 

แต่มีแวบนึงที่คิดจะลองถอยหลังเหมือนกัน กำลังเตรียมจะสตาร์ทเครื่อง แต่เจ๊แกไม่ให้สตาร์ท บอกแค่ให้เหยียบเบรกแล้วรวีเว๊อซ คือเค้าให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ R เพื่อที่จะเช็กดูว่าเบรกใช้งานได้ป่าวหรืออะไรซักอย่างไม่แน่ใจ แต่พี่สาวจำไม่ได้ว่าตอนเค้าสอบต้องมีทำแบบนี้ด้วยก็เลยไม่ได้เทรนมา โอเคคคคค ตรูมันโง่วววว โอเคคคค สอบใหม่พรุ่งนี้ก็ได้ชิ 

การสอบ road test นี้เค้าให้สอบได้แค่สามครั้ง ถ้าตกสามครั้งต้องไปลงเรียนขับรถแล้วมาสอบใหม่ แต่ครั้งนี้ชั้นยังไม่ได้แม้กระทั่งสตาร์ทรถ เค้าเลยไม่นับเป็นตก จึงยังเหลืออีกสามครั้งเพียวๆ…..โอเคชั้นไม่ยอมแพ้ง่ายๆร็อก…เจอกันใหม่พรุ่งนี้ DMV 

กลับมาอีกครั้งในวันต่อมา วันนี้นั่งรอด้วยความมั่นใจที่ลดลงมาจากวันแรก จากประสบการณ์ครั้งแรกที่สอบไม่ผ่านเลยเปิดหาศัพท์นู่นนี่ที่คิดว่าเกี่ยวกับการขับรถให้มากที่สุดมาอ่าน ดู youtube ว่าเค้ามีอะไรเพิ่มเติมอีกไม๊ แต่ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจอยู่ดี พอเค้ามาเรียกตรวจเอกสาร ปรากฏว่าเจอเจ๊ผิวสีเมื่อวานที่ให้ชั้นตก เป็นคนตรวจ บร๊ะ ดวงเราช่างสมพงษ์ซะจริงเชียว เจ๊แกก็เหมือนจะจำเราได้ เราก็เลยถามว่ามีอะไรที่เราควรจะรู้อีกไม๊ เจ๊เค้าก็บอกว่า ก็ที่สอบไปเมื่อวานก็แค่นั้น แล้วเวลาสอบขับบนถนนขับก็แค่บอกซ้าย ขวา ตรง เปลี่ยนเลนส์ หยุด โว๊ะ เหลือแค่ศัพท์หมูๆแค่เนี้ย ใครๆก็รู้ฟะ วันนี้แหละชั้นต้องผ่านให้ได้!!

ตรวจเอกสารเสร็จก็รอเรียกคราวนี้เป็นเจ๊แหม่มอ้วน ที่ค่อนข้างมีอายุหน่อยเป็นคนสอบ เซ็นเอกสารเสร็จก็เดินตามเจ๊แกไปแล้วก็เปิดประตูให้เจ๊แกตามเสตป ไม่มีคำขอบคุณเหมือนเดิม เอ๊ะ คนที่นี่เค้ายังไงกันนะหยิ่งซะจริงเชียว แต่ชั่งเหอะ ชั้นไม่แคร์(สะบัดบ๊อบแล้วเดินไปที่รถเรา)จากนั้นก็ตามสอบตามเสตปเมื่อวานมาจนถึง…..รวีเว๊อซ เชอะชั้นรู้แล้วย่ะว่าทำยังไง ยิ้มกริ่มอยู่ในใจ แล้วก็ผ่านมาได้จนถึงเจ๊แกหอบร่างขึ้นมาบนรถ (จำได้ว่าตอนนั้นรถมันยุบลงมากอย่างเห็นได้ชัด) แล้วบอกให้สตารท์รถ เยี่ยม ตรูได้สตาร์ทรถแล้วเฟ้ย

Set defrost ” เจ๊แหม่มพูดขึ้นมา

“เอ่อ พาร์ด๊อนน” ในใจคิดว่าชิหายละ ศัพท์ห่าไรอีกฟะเนี่ยยยย จิตใจตอนนี้เต้นตุบๆเหมือนเต้นแอโรบิกอยู่กลางสวนลุม พยายามลองคิด set default ป้ะว๊า แบบsetกระจกข้าง กระจกหลังให้เป็นแบบของเรา (จำมาจากเวลาเซตค่าในคอม) ก็เลยลองทำท่าปรับๆกระจกนู่นนี่ดู

Set defrost ” เจ๊แหม่มพูดดังขึ้น เวรละตรู ตามเสตปเหมือนวานเป๊ะ นี่ตรูต้องเจอกะอะไรอีกเนี่ยยย โอวมายก๊อดดด 
“เอ่อ ฉานไม่เข้าใจคำศัพท์นั้น อธิบายให้ฉานหน่อยได้ม๊ายค๊า” เสียงออดอ้อนพร้อมทำตาเศร้า
“ฉานบอกว่า ให้คูนเอาอากาศข๋างนอกข้าวมาในรถทำยางงาย” 

โอเค อธิบายอย่างงี้ก็พอจะเข้าใจละว่าแบบถ้ารถมีฝ้าขึ้นมาต้องเอาอากาศเข้ามาเพื่อที่จะได้ไล่ฝ้า แต่แย่ละ เกิดมายังไม่เคยใช้ฟังก์ชันไรพวกนี้เลย โอวว บ้านชั้นเป็นเมืองร้อนนะจ๊ะนายจ๋า ชั้นเพิ่งได้ใบขับขี่ที่ไทยมาสองเดือน ชั้นยังไม่เคยลองขับตอนรถมีฝ้า มีหิมะ เลยนะจ๊ะนายยย แต่ก็ตั้งสติแล้วนึกกลับไปตอนอยู่เมืองไทย คลับคล้ายคลับคลาว่าป่าป๊าเคยกดตอนมีฝ้าเวลาฝนตก เราก็เลยกดปุ่มนั้นไป แต่หารู้ไม่!! ว่าถ้าจะให้มันทำงานต้องเปิดให้พัดลมมันทำงานด้วย โอววว เจ๊แหม่มมองเราหน้าตาละเหี่ย แล้วก็บอกชั้นในสิ่งที่ไม่อยากจะได้ยินเลยจริงๆ
“ ฉานให้เธอขับม่ายด้ายนะ เธอต้องรู้จักรถเธอให้ดี ว่าทำงานยางงายหนา วันนี้เธอม่ายผ่าน ดับเครื่องแล้วตามฉานมา”

“@#$%^&*%&(@!@#$” อยากจะสบถเป็นภาษาอาบูดาบี (สบถไงฟะ) ว็อทเดอะเฮลลลลแหม่ม ตรูเปิดdefrostตอนนี้ไม่ได้แล้วมันเกี่ยวอาร้ายกะการสอบขับโร้ดดดด ตรูไปเรียนรู้ทีหลังม่ายด้ายเลยหรอออ ตอนนี้มันหน้าร้อนนะแหม่มมมม อะไรฟะเนี่ยยย ตรูเสียเวลามาครั้งที่สองทั้งๆที่ยังไม่ได้ขับออกไปอีกแล้วววว โอวววว ตรูจะบร้า (ภายใจคุกรุ่น แต่ภายนอกนั่งเจี๋ยมเจี๊ยมคอตก พร้อมออดอ้อนด้วยสายตาที่เว้าวอน)

“ พลีส ให้โอกาสช้านอีกซักครั้งเถิดดด” ยังพูดไม่ทันจบประโยคเจ๊แหม่มอ้วนก็ลุกออกจากรถทันที (รู้สึกว่ารถลอยขึ้นมาทีเดียว) เราก็ยังนั่งคอตกอยู่ในรถซักพัก พร้อมกับคิดว่าประวัติศาสตร์ต้องจารึก ว่ามีคนมาสอบแต่ไม่ได้ออกรถถึงสองครั้งติด โอวชั้นต้องได้ร่วมเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์แน่ หรือชั้นไม่มีบุญวาสนาที่จะได้ขับรถในอเมริกา พร้อมกับค่อยๆเดินลงมา 

ทีนี้พอเข้ามาในอาคารแล้วแล้วก็ถามเจ๊แกว่า มีอะไรที่ชั้นต้องรู้อีกไม๊ เจ๊แกบอกว่า set defrost เป็นอย่างสุดท้ายที่จะให้ทำก่อนออกรถแล้ว….ให้ตายเหอะซาร่า ตอนนั้นชั้นถามเจ๊ผิวสีแกก้อบอกไม่มีอะไรแล้ว ก้อเจือกมามี defrost ไรนี่อีก ต่อไปจะให้ตรูลงไปเปิดฝากระโปรงหน้ารถ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เติมลมยางเลยม๊ายยยย Help me plssssss ไม่ส่งไม่สอบมันละพอกันที!!!เพื่อนพี่สาวเห็นเราหมดแล้วซึ่งกำลังใจในการสอบเลยแนะนำบอกให้ไปสอบที่อื่น (เพื่อนพี่สาวเคยมาสอบที่นี่โดยยืมรถคนอื่นมาสอบ ปรากฏว่าเปิดกระจกไม่ลงแล้วเจ๊ที่นี่ก็ไม่ให้สอบเหมือนกัน พอไปอีกสาขานึงที่อยู่ไกลๆเจ้าหน้าที่เค้าใจดีมากสอบครั้งเดียวผ่านเลย) พรุ่งนี้เลยคิดว่าจะไปสอบที่อื่นละ พอกันทีกับที่นี่ done!!! 

กลับมายังที่เดิมมม ที่ที่เราคุ้นเคยยยย (โปรดร้องเป็นทำนองตาม)ไม่รู้อะไรดลบันดาลให้ชั้นได้กลับมาสอบที่นี่อีกครั้ง เอ๊ะหรือเมื่ออดีตชาติเราเคยเป็นผู้คุมสอบสุดโหดที่นี่ ชั้นเลยกำลังชดใช้กรรม 555 เว่อมากเนื่องจากวันนี้พี่สาวว่างแค่ช่วงเช้า ถ้าพาเราไปสอบที่อื่นพี่สาวจะไปทำธุระไม่ทัน โอเค ตั้งปณิธานไว้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วกับการสอบที่นี่ ถ้าไม่ผ่านอีกจะสะบัดบ๊อบหนีไปที่อื่นโดยทันที 

วันนี้คนเยอะเป็นพิเศษเลยรอเรียกคิวนานหน่อย ตรวจเอกสารเสร็จอะไรเสร็จก็รอเรียกคิวไปสอบขับ และแล้ว………….(ทำนองเพลงขึ้น) พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด เจอกะเจ๊ผิวสีอีกละ เจอเจ๊สามวันติด(ชาติที่แล้วอาจเป็นแม่ลูกกัน) เจ๊เค้าเห็นเราแล้วก็จำเราได้ คงคิดในใจอีนี่มันยังไม่ผ่านอีกหรอวะ แต่ใจนึงก็แอบดีใจที่เจอเจ๊ผิวสีคนนั้นเผื่อว่าเค้าจะเมตตากรุณาปราณีเด็กน้อยตาดำๆคนนี้บ้าง 

ก็เดินไปที่รถและทำเหมือนเดิมจนถึง reverse เจ๊เค้าพูดแล้วก็หัวเราะๆ โอวเพิ่งจะเห็นรอยยิ้มของพนักงานที่นี่เป็นครั้งแรกช่างเป็นบุญตาซะจริง โฮะ คราวนี้ชั้นทำได้แล้วนะจ๊ะ reverse หน่ะ หมูๆ พอเสร็จเจ๊เค้าก็ขึ้นรถแล้วก็บอกว่าจะสอบขับรถละนะ อ่าวววว คิดในใจ defrost ไม่ต้องหรอเจ๊ แล้วเจ๊แหม่มอ้วนคนนั้นมาให้ชั้นทำทำม๊ายยยย (มาถามพี่สาวกะเพื่อนพี่สาวทีหลัง ตอนเค้าสอบก็ไม่ต้องปรับ defrost เหมือนกันเลยไม่ได้บอกวิธีใช้ไว้) มาตรฐานที่นี่คืออะร้ายยยย กรีดร้องอยู่ในใจว่าถ้าเมื่อวานไม่เจอเจ๊แหม่มนั่นคงไม่เจอ defrost 

โอเคตั้งสติอยู่กับรถ จะสอบขับรถละนะ เราก็ถอยแล้วก็ขับแบบที่ฝึกมา จอดให้สนิทตรง stop sign ,speed limit ตามกำหนด , เปิดไฟเลี้ยวทุกครั้งเวลาเลี้ยว เปลี่ยนเลนส์ ระหว่างที่สอบเจ๊แกก็แค่บ่นร้อน กะบอกทางนู่นนี่นิดหน่อย ใช้เวลาสอบประมาณสิบนาทีก็กลับมาที่เดิมอย่างสวัสดิภาพ เห็นเจ๊แกไม่บ่นไร ก็เลยดับเครื่องกระโดดโลดเต้นตามเจ๊แกเข้าไปข้างใน พอเจ๊แกบอกว่าผ่านเท่านั้นแหละ ก็รู้สึกดีใจแบบสุดๆแทบจะก้มลงกราบเจ๊แกเลยทีเดียว ฮูเร่ ฮ่าฮ่า เห็นไม๊ล่ะลองให้ชั้นได้ขับนะยะ ชั้นผ่านตั้งแต่วันแรกแล้วเหอะ จ่ายเงินเสร็จสรรพ 20 เหรียญก้อมาบอกบอกให้พี่สาวรู้พี่ก็ดีใจแทบจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้เลยทีเดียว ในที่สุด ในที่สุด เราก็ได้มันมา ฮ่าๆๆๆ 

จริงๆแล้วการสอบใบขับขี่มันอาจจะไม่ได้ยากอะไรมากมาย นอกจากความสามารถของเราแล้วมันอาจขึ้นอยู่กับดวงด้วย (แต่ในกรณีนี้อาจจะเกิดจากความโง่ของชั้นเอง 555) เพราะฉะนั้นก็ถือว่าชั้นได้เรียนรู้ว่าเวลาจะทำอะไรจะสอบอะไรต้องเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ใช่ดูแค่ว่าคนก่อนเค้าสอบยังไงมาแล้วมันจะเป็นอย่างนั้นเสมอไป ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดีกับการสอบใบขับขี่ของที่นี่นะคะ (แล้วอย่าลืม reverse กะ defrost หล่ะ หวังว่าคงไม่มีใครเป็นแบบเรา 555) 

Author: TENTENZ


3 thoughts on “ประสบการณ์หฤโหดใน การสอบใบขับขี่ที่ DMV อเมริกา

  • ไปสอบที่ Fairfax County โดยไม่นัด ไปวันพุธแต่เช้า คนน้อย
    เข้าไปเจ้าหน้าที่ให้อ่านหนังสือเล่มเล็ก ๆ เราอ่านแล้วเฉย ๆ สัญญลักษณ์เหมือนกันทั่วไป หยุด รอ ทางข้าม ห้ามแซง ฯลฯ
    จากนั้นก็ไปสอบข้อเขียน เสร็จแล้วตรวจทันที ได้เกิน 80 ก็ให้สอบขับ

    วันนั้นเอารถเกียร์ธรรมดาไป พอขึ้นรถ เราก็จัดเบาะ จับกระจกมองข้าง
    มองหลัง ติดเครื่อง เจ้าหน้าที่สั่งให้ถอยเข้าจอดระหว่างสองคัน
    สบาย

    เราสงสัยว่า คนลุงคนสอบให้เรา ขับรถเกียร์ธรรมดาไม่เป็นน่ะ
    เลยให้ผ่าน ชิว ๆ นะ

    เพื่อนบอก ทำไมไม่สอบที่วอชิงตัน ดีซี มีแต่ข้อเขียนอย่างเดียว สอบผ่านก็จบไม่มีทดสอบขับ

    Reply
  • ขอแชร์ด้วยค่ะ เผื่อมีใครอยู่ที่แถว HERNANDO,MISSISSIPPI เราไปสอบขับเพิ่งได้ใบขับขี่มา อยากบอกว่าที่เมืองนี้น่าจะแบบว่าง่ายสุดๆๆๆๆ เลยอ่ะค่ะ แต่เราสอบขับตกรอบแรกนะคะ อิอิ เป็นเพราะประหม่าน่ะค่ะ เจ้าหน้าที่คุมสอบก็เลยจัดให้รอไปอีก 30 วัน ช่างเป็น 30 วันที่แสนยาวนาน พอครบกำหนดเราก็กลับไปสอบรอบสอง คราวนี้ทำท่ามั่นใจไปสอบเลยค่ะ คนคุมสอบท่าทางจะจำเราได้ เพราะไปทำเขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด ฮาๆๆๆ แต่มาคราวนี้พี่แกไม่เช็คสภาพรถเลยค่ะ มาถึงปุ๊บเปิดประตูเข้ามานั่งปั๊บ แล้วก็บอกว่าออกรถได้ พอออกถนนก็เลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย เลี้ยวซ้าย แล้วก็วกรถกลับมาที่ DMV คือกลับมาแบบว่า งง อ่ะค่ะ บทฮีจะง่ายก็ง่ายเกิ๊น ใครอยู่แถวนี้ก็มาสอบที่ศูนย์ Nesbit Hernando,MS นะคะ อย่าไปที่ Olive Branch เพราะได้ข่าวมาว่าโหดค่ะ

    Reply
  • โดนเหมือนกันคำว่า Reverse ตอนให้ถอยจอด งงเลย นึกว่าจะให้กลับรถ ตกไปตามระเบียบ

    Reply

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *