งานรับปริญญาในอเมริกา ต่างจากไทยมั้ย?
อยากรู้มั้ยค่ะว่า บัญฑิตในอเมริการับปริญญายังไง ต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 ตี 4 มาแต่งหน้า ทำผม เหมือนบ้านเรามั้ย 55 จะต้องครีเอทท่าแปลกๆ ในการถ่ายรูปเหมือน บัณฑิตไทยหรือเปล่า วันนี้จะพา ไปดูบรรยากาศงานรับปริญญาของตัวเองค่ะ เพิ่งรับไปสดๆร้อนๆๆต้นเดือน พฤษภานี้เอง ก็เลยอยากจะมาขอแชร์ประสบการณ์สักหน่อยค่ะ
และแล้วก็มาถึง วันที่รอคอยมานาน วันที่พ่อ แม่ พี่น้อง มาไกลจากเมืองไทย ต่างมาร่วมยินดีในงานวันรับปริญญาของเรา ฮู เล้!
เช้ามาก็ตื่นตามเวลาปกติธรรมดา 7 โมงค่ะ ดีหน่อยที่มีน้อง มาช่วยแต่งหน้า และมีเพื่อน มาคอยหนีบผมให้ ฮุฮุ ไม่ต้องไปร้านเสริมสวยตั้งแต่ ตี3 เหมือนบ้านเรา แต่งหน้าทำผม นิดหน่อย แค่นี้ก็เอาอยู่!
การรับปริญญาที่อเมริกาแทบไม่มีการซ้อมอะไรเลยค่ะ มีแค่แนะนำนิดหน่อย และให้ดู Powerpoint (เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว และวันจริงก็ลืมแล้วอะ) เพียงเท่านี้เอง ตอนแรกคิดว่าเจ้าหน้าที่จะอธิบายอีกซักรอบ ก่อนจะขึ้นจริง แต่ก็ไม่เลยค่ะ ต้องหวนรำลึกถึงความหลังกันใหญ่ว่าต้องรับใบข้างไหน จับมืออธิการข้างไหนหว่า โชคดีที่เราไม่ใช่คนแรก เลยดูคนก่อนๆหน้าเราไป
เรารับตอน 4 โมงเย็น ประมาณ บ่าย โมง บ่ายสอง ค่อยไปลงชื่อ เอาป้ายชื่อ(เจ้าป้ายชื่อนี้สำคัญมาก เพราะอธิการบดีจะใช้ป้ายนี้แหละค่ะ เรียกชื่อของบัญฑิต ใครทำหายซวยค้าา ) และจะได้รู้ว่าจะนั่งตรงไหนและจัดแถวได้ถูกต้อง
การแต่งตัวภายใต้ชุด gown (เสื้อที่คลุมรับปริญญาสีดำ) จะใส่อะไรข้างในก็ได้ กระโปรงสั้น ก็ได้ ใส่รองเท้าได้ไม่จำกัด ขอให้ดูสุภาพแค่นั้น บางคนใส่เครื่องประดับ ตกแต่งยังได้ ส่วนเราขอเป็นชุดเรียบหรู ไม่สั้นเสมอหู แค่นี้ก็พอ
ที่นั่นไม่ค่อยให้ความสำคัญ ใครจะมาก็มา ไม่มาก็ได้ แต่บัณฑิตไทยอย่างพวกเราไม่พลาดที่จะรวบรวมสมัครพรรคพวก เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง มาร่วมยินดี ถ่ายรูป เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก
บรรยากาศในหอประชุมเรียบๆ ไม่มีอะไร ไม่มีของขายในมหาวิทยาลัย อย่างมากก็มีขายดอกไม้ช่อเล็กๆ ของที่ระลึก ข้างหน้าทางเข้าหอประชุมเท่านั้นเอง และราคาก็สุดจะแพงมาก ข้างนอกขาย 10 ที่นี่ขาย ถูกสุด 25 เหรียญขึ้นไป ไม่ได้มีการตกแต่งซุ้มดอกไม้ ตระการตา หรือมีช่อดอกไม้หลากหลายขนาด ตลอดทั้งของที่ระลึกที่มีอย่างเยอะ เหมือนอย่างบ้านเรา
ก่อนเข้าห้องประชุม ก็ถ่ายรูปกันเองพอเป็นพิธี ไม่ค่อยมีใครถ่ายอะไรมากมาย ถ้าเดินถ่ายรอบมหาลัยแบบที่ไทย คนอื่นอาจมองว่าแปลกได้ ถ่ายเฉพาะจุดสำคัญๆ เท่านั้น
ที่สำคัญคือ พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ หรือเพื่อนฝูง จะมานั่งด้วยที่นั่น ชื่นชมยินดีกับเราในห้องประชุมด้วยค่ะ เค้าจะมานั่งรอเราก่อน จากนั้นบัณฑิตถึงจะเข้ามานั่งเรียงแถวด้านหน้า รอเวลาสำคัญ
ในระหว่างพิธีการ จะให้ความสำคัญตรงที่ จะเชิญบุคคลสำคัญมาพูดเล่าประสบการณ์ให้ฟัง เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จบ้าง หรือเด็กนักศึกษาที่โดดเด่น เชิญมา 4-5 คน บัณฑิตจะตั้งใจฟังมาก หลายคนพยักหน้าเข้าใจ เอ้!!! หรือสัปงก กันแน่
จากนั้นจะเป็นพิธีรับปริญญา โดยรับจากอธิการบดีของมหาวิทยาลัย และก่อนลงจากเวทีจะมีอาจารย์จากคณะต่างๆ มายืนแสดงความยินดีกับเรา ยิ่งตอนเวลาขึ้นไปรับใบปริญญา เพื่อนๆ และครอบครัวของคนที่รับสามารถแหกปากร้อง กรี๊ด ส่งเสียงแสดงความยินดีอะไรก็ได้ บางคนรับปริญญาเสร็จ จับมือกับอธิการบดีแล้วกรี๊ดก็มี อีกอย่างคือปริญญาบัตรที่ได้ไม่ใช่ตัวจริง ต้องนำลงไปแลกตัวจริงอีกที
ในการรับปริญญาที่นี่ เค้าจะให้ความสำคัญของคณะครูอาจารย์ และบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ บัญฑิตทั้งหลายเหล่านี้ด้วย โอ้ เห็นแล้ว ตื้นตันจริงๆๆค่ะ วันนี้ไม่ได้เป็นวันสำคัญของบัญฑิตใหม่เท่านั้น มันยังเป็นวันรำลึกถึงคุณงามความดีของบุคคากรทุกคนที่ทำให้มหาลัยนี้ก่อตั้งขึ้นมา และสร้างทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคมอีกหลายต่อหลายรุ่น
หลังจากรับปริญญาแล้ว ก็ถ่ายรูปกับเพื่อนๆๆ อาจารย์ และจุดสำคัญๆบางจุดเท่านั้นเอง แค่นี้เป็นอันเสร็จพิธี ขั้นตอนต่างๆๆ ไม่ได้ใช้เวลานานมาก ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็เสร็จ แล้วก็ถึงเวลาแยกย้ายสลายตัว
ก่อนกลับ ก็เก็บรูปกับญาติมิตร เพื่อนฝูง ตระเวนไปรอบๆอีกซักหน่อย ก็ชักจะเริ่มหิวค่ะ แน่นอนว่าจุดหมายต่อไปของพวกเรา คือร้านอาหารนั่นเอง ว่าแล้วก็บึ่งไปที่ร้านอาหารเกาหลี ห่างออกไปซัก 20 นาทีได้ค่ะ
กลับมาบ้านอย่างอิ่มหมีพีมันค่ะ ไม่น่าเชื่อว่า งานรับปริญญาในอเมริกา ครั้งนี้ ผ่านไปได้อย่างสบายๆ ง่ายดายเป็นอย่างยิ่ง! และก็ยังอบอุ่น และอบอวลไปด้วยความสุขจากสมาชิกในครอบครัว ที่ยินดีกับความสำเร็จของเรา และรู้สึกดีมากที่สุด ก็คือการได้เห็นพ่อแม่มีความสุข และภูมิใจในตัวเราค่ะ