ตกปลาน้ำลึกในรัฐวอชิงตัน
ตอนนี้ก็เข้าฤดูร้อนแล้วและก็เป็นช่วงเวลาปิดเทอม ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองก็จะเตรียมการวางแผนท่องเที่ยวทั้งครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากัน ส่วนตัวแล้วก็ค่อนข้างโชคดีเพราะตั้งแต่เด็กๆพอปิดเทอมคุณพ่อคุณแม่ก็จะพาไปเที่ยวในช่วงปิดเทอมใหญ่ทุกปี แน่นอนที่สุดก็ต้องเป็นทะเลใช่ไม๊คะ
ตอนนี้พอได้เป็นแม่คนแล้วก็อยากให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนได้สนุกสนานมีความสุขเหมือนตัวเองตอนเด็กๆ ก็เลยคุยกับคุณพ่อบ้านว่าเราจะฉลองปิดเทอมให้ลูกยังไงดี ไอ้จะไปทะเลเหมือนที่ตอนเป็นเด็กบ้านก็อยู่ติดทะเลอยู่แล้ว เดินไม่เกินสิบนาทีก็ได้ไปยืนอยู่ที่ชายหาดแล้ว จะไปที่อื่นไกลๆก็ยังไม่พร้อมเพราะลางานยังไม่ได้ ก็เลยได้ความว่าไปทะเลนั่นแหละแต่ว่าออกไปกลางน้ำกับเลยดีกว่า ตกลงว่าได้ไปตกปลาน้ำลึกกันค่ะ
ที่รัฐวอชิงตันนี้เป็นรัฐที่มีทรัพยากรธรรมชาติในหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ป่าไม้ ภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบ และมหาสมุทรแปซิฟิก จากการที่ในครอบครัวได้มีโอกาสได้ไปทำกิจกรรมกลางแจ้งแบบผจญภัยมาหลายรูปแบบ ก็เลยคิดว่าลองตกปลาน้ำลึกดีกว่าเพราะยังไม่เคยทำ
ครั้งนี้ที่ไปเราติดต่อบริษัทเดินเรือนำเที่ยวตกปลาค่ะ ที่บริษัทนี้เขามีบริการออกไปในหลายรูปแบบ เช่น นั่งออกเรือไปดูปลาวาฬ ตกปลาในแต่ละระดับค่ะ ที่บอกว่าระดับนี่หมายถึงระดับความลึกของน้ำนะคะ เพราะว่าปลาแต่ละประเภทนั้นจะอาศัยอยู่ในระดับความลึกที่แตกต่างกัน จะให้อธิบายกันโดยละเอียดในเรื่องนี้ก็คงจะไม่ได้พูดถึงประสบการณ์การตกปลาน้ำลึกแน่ๆ เอาเป็นว่าที่ไปนี่ต้องนั่งเรือออกไปประมาณสามชั่วโมงค่ะ เรือที่ใช้ก็ไม่ใหญ่มากมายจุได้ประมาณยี่สิบคนค่ะ
การเตรียมตัวก็ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรเพราะทางเรือเขาเตรียมเบ็ดและเหยื่อไว้ให้ลูกทัวร์ไม่ต้องเอาไปเอง จะเตรียมก็ต้องเป็นอาหาร น้ำ ขนม เสื้อผ้าค่ะ และก็ต้องเป็นเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับอากาศด้วยนะคะ เพราะสภาพทางภูมิศาสตร์ของรัฐวอชิงตันที่ตั้งอยู่ทางเหนือ ที่นี่ก็เลยมีฝนและอากาศเย็นถึงหนาวตลอดทั้งปี
ถึงแม้ว่าจะเป็นฤดูร้อนอุณหภูมิก็อาจจะต่ำลงถึง 50 องศาฟาเรนไฮซ์ก่อนที่จะกลับขึ้นไปถึง 80 องศาฟาเรนไฮซ์ได้ภายในวันเดียวกัน แต่ถ้าพูดถึงอากาศตอนที่ออกเรือไปนั้นแน่นอนที่สุดว่าจะต้องหนาวกว่าปกติค่ะ
เพราะฉะนั้นเวลาไปก็ต้องเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวและต้องเป็นแบบที่กันน้ำด้วยนะ บนเรือเขาจะมีกาแฟร้อนเตรียมไว้ให้เท่านั้น อาหารและเครื่องดื่มต้องเอาไปเองและถ้าต้องการจะอุ่นอาหารหรือเครื่องดื่ม ก็ไม่มีปัญหาค่ะเพราะมีไมโครเวฟเตรียมไว้ให้ด้วย และถ้าเมาคลื่นหรือเมาเรือก็ต้องเตรียมเอายาแก้เมาไปด้วยนะคะ
พอพูดถึงยาแก้เมาแล้วตัวเองก็ไม่ได้เตรียมไปหรอกค่ะ เรื่องของเรื่องก็คือตอนที่กลับไปเยี่ยมบ้านเมื่อสองปีก่อนได้ไปเที่ยวเกาะช้างและได้ลองไปตกปลากลางทะเลเหมือนกัน ตอนนั้นไม่มีปัญหาอะไรไอ้เราก็เลยคิดว่าหมูๆไม่มีปัญหา
คราวนี้พอลงเรือกัปตันเขาก็อธิบายกฎเกณฑ์ง่ายๆให้ฟังแล้วก็บอกว่าวันนี้คลื่นลมไม่แรงเราก็ยิ่งดีใจใหญ่ แต่เราลืมไปว่าไปตกปลาครั้งนี้เราจะไปในทะเลเปิดในมหาสมุทรไม่ใช่ในอ่าวอย่างที่เมืองไทย ยิ่งไกลออกไปคลื่นก็ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากผ่านไปได้ชั่วโมงกว่าๆก็ไม่ไหวแล้วเมาคลื่นมากจนทนไม่ได้ต้องให้อาหารปลากันเสียหน่อย อาเจียนออกไปแล้วนึกว่าจะหายที่ไหนได้ยิ่งเป็นมาก ยาก็ไม่มี ก็เลยนอนหลับรอ คิดว่าถ้านอนหลับแล้วคงจะดีขึ้น แต่ตรงกันข้ามค่ะ ยิ่งนอนหลับก็ยิ่งเพลีย หนาวก็หนาว มีลูกทัวร์คนอื่นเขาบอกว่า ให้มองไปที่เส้นขอบฟ้าแล้วจะหาย จะให้มองยังไงเมาคลื่นขนาดนี้ ตาก็ลืมไม่ขึ้น เปิดตาแล้วก็หาเส้นขอบฟ้าไม่เจอก็เลยบอกเขาว่าขอโฟกัสไปที่การนอนหลับดีกว่า
ไปกันต่ออีกชั่วโมงกว่าๆกัปตันก็บอกว่าจะทอดสมอตรงนี้ ไอ้เราก็ดีใจคิดว่าเรือหยุดแล้วจะได้หายเมาคลื่น ที่ไหนได้เรือก็ยังโคลงเคลงเหมือนเดิม ก็แน่ล่ะ เรายังอยู่ในมหาสมุทรคลื่นมันก็ยังมีเหมือนเดิม ลูกชายก็มาบอกว่าให้ออกไปที่หัวเรือเพราะเขาจะตกปลาที่นั่น เราก็ฝืนออกไปคิดว่าถ้ายุ่งกับการตกปลาก็คงจะหายเมาคลื่น
แต่มันไม่ไหวจริงๆค่ะเพราะเวียนหัวมาก กัปตันเขาอุตส่าห์มาชี้ให้ดูปลาวาฬก็ไม่ได้เห็นแต่ได้ยินเสียงอยู่ไกลๆค่ะ ฝืนยืนอยู่ได้ไม่ถึงสามนาทีแต่ก็โชคดีที่ปลาติดเบ็ดก็เลยได้ปลากับเขาเหมือนกัน แต่ลูกชายสิคะ แค่หกขวบกว่าๆตกได้ตั้งเยอะแยะ แถมไม่รู้สึกเมาคลื่นและไม่หนาวไม่บ่นกับสนุกสนานกับการตกปลา ไม่เหมือนคุณแม่ที่เมาหัวทิ่มหัวตำแต่เมาคลื่นนะคะไม่ใช่อย่างอื่น
วันนั้นทั้งลำเรือได้ปลาทั้งหมด 139 ตัว เด็กที่ช่วยงานในเรือก็จะจัดการแล่ปลาให้ หรือถ้าจะเก็บไว้ทั้งตัวเขาก็จะเก็บไว้ให้ ทุกคนในทัวร์จะได้รับส่วนแบ่งปลาเท่าๆกัน นอกจากจะมีปลาประเภทที่หายากตกยากคนที่ตกได้ก็จะได้ปลาตัวนั้นกลับบ้านไปค่ะ
ไปตกครั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่ได้สนุกแต่กลับทรมาน แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีมากเพราะว่าลูกชายได้สนุกสนานและเรียนรู้ถึงความอดทนอย่างที่เราได้ตั้งใจไว้ แถมไม่พอยังได้ปลากลับมาไว้ทานอีกต่างหาก คราวหน้าต้องเตรียมตัวให้ดีกว่านี้เพื่อไม่ให้ตัวเองเมาคลื่นเหมือนครั้งที่ผ่านมา
จากที่ได้ศึกษาดูแล้วก็อยากจะเอามาฝากกันตรงนี้สักหน่อยเผื่อใครอยากจะลอง แน่นอนว่าวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการใช้ยาเข้ามาควบคุมอาการเมา ซึ่งยาแก้เมาคลื่นนี้ก็มีทั้งที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปแต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบที่ทำให้คุณรู้สึกง่วงนอนมากๆ
ลองปรึกษาคุณหมอส่วนตัวดู เขาก็แนะนำให้ใช้แผ่นสติ๊กเกอร์ติดไว้ที่หลังหูจะดีที่สุดเพราะมันจะเข้าควบคุณของเหลวในหูและไม่ทำให้เราเมาคลื่น แต่แผ่นแปะแบบนี้ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ถึงจะซื้อได้ค่ะ ถ้าใครไม่อยากใช้ยาเข้าช่วยแต่ต้องการวิธีที่เป็นธรรมชาติ
เขาก็มีวิธีแนะนำอยู่หลายอย่างเริ่มจากนอนพักผ่อนให้เต็มที่ อย่าให้ท้องว่าง รับประทานขิงหรือผลิตภัณฑ์จากขิงเช่น น้ำขิง ขิงแห้ง เพราะขิงมีสารบางอย่างที่ช่วยเกี่ยวกับเรื่องนี้ และควรจะรับประทานตั้งแต่วันก่อนหน้าที่คุณจะลงเรือจะได้ผลมากขึ้น เวลาอยู่บนเรือก็ต้องมองออกไปไกลๆที่เส้นขอบฟ้า แล้วตัวเองจะเลือกทำอย่างไรหรือคะ
คราวหน้าก่อนไปจะทำทุกอย่างที่บอกมาเลยค่ะ รวมถึงแผ่นแปะหลังหูด้วยเพราะคุณหมอให้ใบสั่งยามาแล้ว ก่อนไปก็ไปรับเอาได้ที่ร้านขายยามาแปะไว้ตั้งแต่คืนก่อนไป ดูสิว่าถ้าทำทุกอย่างที่มีคนแนะนำมาแล้วจะเอาอยู่ไหม ได้ผลยังไงถ้ามีโอกาสจะกลับมาอั๊พเดทนะคะ
By; ษุภากร, Intercultural Communication and Services LLC
ขอบคุณภาพประกอบจาก: www.coastalbreezenews.com ,www.washingtontours.net
best-diving.org ,austin.culturemap.com ,features.boats.com