สัพเพเหระในอเมริกา

ระบบป้องกันภัย ใช้บัตรเครดิตในอเมริกา

ใช้บัตรเครดิตในอเมริกาเมื่อเช้ามีเรื่องราวค่อนข้างระทึกใจนิดนึงค่ะ อยู่ๆมีข้อความส่งมา จากบัตรเครดิต chase ถามว่าเรากำลังพยายามทำรายการซื้อของในราคาเกือบร้อยเหรียญอยู่หรือปล่าว ให้เรา Approve ด้วย กด 1 yes 2 no อ๊ะ เราแน่ใจว่าไม่ได้ใช้อย่างแน่นอน เลยกด 2 เน้นเน้น

เราจะเห็นได้ว่าระบบป้องกันภัยการ ใช้บัตรเครดิตในอเมริกา ค่อนข้างดีเลยทีเดียว นี่ถ้าเค้าไม่มาเช็คกับเราก่อน เราคงต้องโดนรูด เสร็จโก๋ไปแล้วแน่นอน! แล้วคงต้องเสียเวลามาตามเรื่องอีก ทั้งไม่รู้ว่ากระบวนการจะเสร็จเมื่อไหร่

นั่นก็เป็นเพราะว่าการซื้อของ online ในอเมริกานั้น เป็นเรื่องแสนปกติ ผู้คนในอเมริกาทำรายการซื้อขายทางอินเตอร์เนตมากที่สุดในโลก พวกแฮกเกอร์ก็มาก มาตรการป้องต่างๆก็ต้องมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัวนั่นเองค่ะ อย่างในกรณ๊ของเรา เค้าคงเห็นว่าบัตรถูกใช้ที่รัฐโคโลราโด แต่ที่อยู่ของเราในระบบนี้มันอยู่เวอร์จิเนียร์ ก็เลยคงเกิดสงสัยและสอบถามไปยังเจ้าของบัตรนั้นเองค่ะ

ระบบป้องกันภัยการ ใช้บัตรเครดิตในอเมริกา นี้ ค่อนข้างดีและรับผิดชอบมากๆค่ะ  แม้โดนหักเงินไปแล้ว ก็ยังตามเรื่องคืนได้อยู่นะคะ เพื่อนเราคนหนึ่ง อยู่ๆโดนชาร์จ 20 กว่าเหรียญ จากบริษัทขายคอร์สอบรมเจ้านึงติดต่อกัน 3 เดือนทั้งที่ก็ไม่เคยสมัครอะไรที่ไหนไว้ (เพื่อนฉันก็ไม่ค่อยจะเช็ครายการค่าใช้จ่ายเล้ย) มารู้อีกที โดนชาร์จเงินมาแล้ว 3 เดือนติด สุดท้ายโทรไปหาทางธนาคาร เพื่อทำการระงับการตัดเงิน และติดต่อไปยังบริษัทเจ้านั้น ว่าไม่ได้ทำรายการซื้อใดใด แหม!!! เค้าก็คืนตังค์ให้ด้วยค่ะ ค่อยยังชั่ว!

ไม่เพียงแต่การซื้อขาย online นะคะ ตาม Grocery store ก็มีมาตรการป้องกันการใช้บัตรเครดิตอยู่เหมือนกันค่ะ หากเราซื้อของจำนวนเงินค่อนข้างมาก เค้าก็จะถามตัวเลข 5 หลักของรหัสไปรณีย์ที่เราอาศัยอยู่ เพื่อยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของบัตรแน่นอน

หรือ ใน Macdonalds เช่นกัน ครั้งหนึ่งใช้บัตรเครดิตรูดซื้อเบอร์เกอร์ไปแล้ว ต่อมาอีกสัก 10 วินาที ตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มเพิ่ม จ่ายด้วยบัตรใบเดิม แต่คราวนี้รูดไม่ผ่านค่ะ ดีที่พนักงานเป็นคนเดียวกับที่เราซื้อของไปก่อนหน้านี้ เค้าจำได้แล้วถามว่ายูเพิ่งใช้บัตรนี้รูดไปใช่ไหม ถ้าใช้ติดต่อกันในเวลาอันใกล้มันจะรูดไม่ได้นา จากนั้นเค้าก็จิ้มๆอะไรตรงเคาท์เตอร์ เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงระบบซักพัก แล้วให้เรารูดอีกครั้งถึงจะใช้ได้ค่ะ

เพราะเป็นระบบป้องภัยนั่นเอง ประมาณว่าหลังจากคุณซื้อของที่แมคโดนัลแล้ว หากบัตรตกหล่น แล้วคนที่เก็บได้แล้วเอาไปใช้ มันก็จะใช้ไม่ได้ แอบมีนึกเล่นๆว่า หากเอาไปใช้ที่อื่นนอกจากที่แมคจะใช้ได้ป่าวว่า

จากที่ยกตัวอย่างมานี้เอง คนอเมริกันส่วนใหญ่เลยค่อนข้างมั่นใจในการใช้บัตรซื้อของออนไลน์ค่ะ ดังนั้น หากใครโดนชาร์จเงินแบบผิดปกติ หรือมีรายการค่าใช้จ่ายโดยที่เราไม่ได้ใช้ ก็ไม่ต้องตกใจนะคะ โทรไปหรือบุกไปที่ธนาคารโลดคะ ส่วนใหญ่เค้าจะรักษาผลประโยชน์ให้เรา เพราะเค้าจะรักษาลูกค้าไว้อยู่แล้วค่ะ

แม้ว่าการ ใช้บัตรเครดิตในอเมริกา จะแลดูค่อนข้างปลอดภัย เพราะมีมาตรการป้องกันภัยที่ดีจากแฮกเกอร์ร้ายรอบโลกแต่ว่าไม่มีระบบป้องกันการใช้บัตรเครดิตของผู้เป็นเจ้าของซะเล้ย คนรูดก็รูดเอารูดเอา โดยไม่มีการเตือนบ้าง เลยว่าใช้ไปตั้งเยอะแล้ว ตังค์ของเดือนนี้เกือบหมดแล้วจ้า แต่เพิ่งจะผ่านไปครึ่งเดือนเอง T-T ดีไม่ดีหากใช้บัตรเดบิตแล้ว overdraft ยังซวยจะต้องจ่ายเพิ่มอีกเยอะแหนะค่ะ!


 


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *