เตรียมตัวก่อนมาอเมริกา

เมื่อต้อง จัดกระเป๋าไปอเมริกา

เมื่อต้อง จัดกระเป๋าไปอเมริกาเมื่อขอวีซ่าอเมริกาผ่านฉลุย ซื้อตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาเรียบร้อย ขั้นสุดท้ายที่ต้องเตรียมสำหรับการเดินทางคือ จัดกระเป๋าไปอเมริกา นั่นเองค่ะ

จากประสบการณ์ของเราที่ จัดกระเป๋าไปอเมริกา ครั้งแรก เคยคิดว่าน่าจะมีเนื้อที่จุของเหลือเฟือ แต่จัดไปจัดมา กระเป๋าใบเป้งๆ 2 ใบก็เต็มแน่นเอี๊ยด แถมยังมีของที่ดูเหมือนจำเป็นอีกมากมายที่ต้องเอาไปอีก จะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้ จัดเสร็จแล้วต้องดึงนู้นดึงนี่ออก แล้วใส่ของที่คิดว่าจำเป็นมากกว่าลงไป แต่ อ่าว น้ำหนักไม่ได้อีก มากเกินกำหนด ก็ต้องเอาออกเอาเข้าหลายรอบ กว่าทุกอย่างจะลงตัว เล่นทำเอาเหนื่อยหอบเลยทีเดียวค่ะ

พอมาถึงอเมริกาและได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จริงๆก็พบว่า หลายอย่างเราไม่จำเป็นต้องแบกมา สิ้นเปลืองเนื้อที่กระเป๋าอันมีค่าของเราก็ได้ แต่บางอย่าง แหม! น่าจะซื้อมาเยอะๆ หรือไม่น่าหยิบออกในวินาทีสุดท้ายเลย ให้ตายสิ!

ของหรือสัมภาระบางอย่าง เรามาซื้อที่อเมริกาจะดีกว่าค่ะ เพราะไม่แพงและหาซื้อง่าย ส่วนของบางอย่าง หาลำบากในอเมริกา ซื้อที่ไทยจะดีกว่ามาก ดังนั้น คราวนี้เราเลยขอนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับการ จัดกระเป๋าไปอเมริกา แนะนำสัมภาระ หรือสิ่งของที่ควร-ไม่ควรเอาไปอเมริกากันดีกว่าค่ะ

อาหาร

เมื่อต้อง จัดกระเป๋าไปอเมริกาสิ่งที่คนไทยกังวลเป็นปกติ คือเรื่องปากท้อง พอต้องจัดกระเป๋าไปต่างประเทศ เลยต้องขนปลากระป๋อง มาม่า น้ำพริก น้ำปลา กะปิ เอาไปด้วย ตามความเห็นส่วนตัว ขอแนะนำว่าของพวกนี้ไม่ต้องขนไปเยอะเลยค่ะ เพราะที่อเมริกาหาซื้อได้ง่ายมาก จาก Asian Grocery Store

เนื่องจากที่อเมริกานี้ มีคนเอเชียอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้ง อินเดีย, เกาหลี, จีน, เวียดนาม, ไทย  เลยหาซื้อทุกอย่างได้ที่นี่ค่ะ ราคาอาจแพงกว่าบ้านเรานิดหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับซื้อไม่ลงค่ะ

ที่นี่สามารถหาซื้อเครื่องปรุง หรือส่วนประกอบของอาหารไทยได้เกือบทั้งหมด หรือบางอย่างก็ใช้แทนกันได้ ของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายมากมายจนบรรยายไม่ถูกเลยล่ะค่ะ บางอย่างเรายังไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำ เพราะเขานำเข้า ผัก-ผลไม้ มาจากหลายๆประเทศ อย่างแตงกวานี่ มีอยู่ 4-5 แบบ แบบเล็กๆ อย่างที่เห็นบ้านเรา จนถึงขนาดยาว ใหญ่มาก ถ้ามีคนบอกว่าจะให้ซื้อแตงกวา อาจต้องถามเพิ่มด้วยซ้ำ ว่าจะเอาแบบไหน

เมื่อต้อง จัดกระเป๋าไปอเมริกาเครื่องปรุงอาหาร ซอส ต่างๆก็มีให้เลือกมากมายค่ะ นานาชาติ น้ำจิ้ม น้ำซอส ของไทย เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลี เม็กซิโก หรือบะหมี่สำเร็จรูป ก็มีให้ลองจากหลากหลายชาติ (แต่เราว่า ยังไง๊ของไทยก็แซบสุดค่า)

เรื่องขนมนี่ ถ้าเข้า Grocery ฝรั่ง ก็จะเห็นพวก Chip, Checker, Cookie และอื่นๆที่ผลิตในอเมริกา หาได้ทั่วไป แต่ที่ Asian Grocery นอกจากขนมฝรั่งแล้ว เราสามารถเพลินเพลินกับการลิ้มลองขนมจากทั่วโลกที่นี่ได้เลย คือที่นี่จะมีขนมจากเอเชีย เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และไทยวางขายด้วยค่ะ

ทว่ามีขนมอย่างหนึ่งที่เราชอบกินมาก แต่หาไม่ค่อยได้เลยคือ ปลาเส้นค่ะ เราเคยไปเที่ยว LA แล้วเจอใน Grocery ไทย แต่แพงเหมือนกันค่ะ ราคา $1.99 ห่อนิดเดียว รวบเข้าปากไม่กี่คำก็หมด55 ดังนั้น ใครชอบกินปลาเส้น เอามาโลดค่ะ ที่นี่มีขายน้อยมาก

ควรขนมา:   ปลาเส้น, โจ๊กซอง, กุ้งแห้ง, ผลไม้กวนที่เก็บได้นานๆ

ไม่น่าขนมา: มาม่า, เครื่องปรุงต่างๆ, ซอส น้ำจิ้ม กะปิ หาซื้อได้ที่นี่ค่ะ

เสื้อผ้า

อันนี้ก็ไม่จำเป็นต้องขนไปเยอะค่ะ เพราะเสื้อผ้าที่อเมริการาคาก็ไม่ได้แพงมากจนเกินไป ถ้าติดยี่ห้อก็จะเห็นว่าถูกกว่าที่เมืองไทยมาก ยิ่งเวลา Sale แล้วเนี่ย จะถูกสุดๆเลยค่า แถมเนื้อผ้าก็ดี เหมาะกับการซักที่นี่

คือที่อเมริกา พอเอาผ้าออกมาจากเครื่องซักผ้าแล้วก็ยัดใส่เครื่องอบผ้าเลย ไม่มีการตากเสื้อค่ะ ทีนี้ถ้าเราเอาเสื้อบางอย่างมาจากไทย มันก็อาจจะหดได้เมื่อใส่เครื่องอบผ้านี่แหละค่ะ

เสื้อกันหนาว มาซื้อที่อเมริกาดีกว่าค่ะ เสื้อกันหนาวที่นี่ มีคุณภาพ กิ๊บเก๋มีสไตล์ และราคาไม่แพงจนเกินไป คือมีแค่ตัวหรือสองตัวก็พอที่จะใช้ไปได้ตลอดหน้าหนาวแล้วหละค่ะ

ที่นี่มีร้านที่ขายเสื้อผ้าแบรนด์เนม, รองเท้า, ของเล่น, และของใช้ในครัวเรือนต่างๆ มักมีราคาถูกกว่า Original Price กว่า 50%-90%  ที่ถูกเพราะของส่วนใหญ่เป็นสินค้าตกรุ่น, สต็อคมากเกินไป, ไซต์ใหญ่หรือเล็กเกินไป ใครไปตามร้านเหล่านี้ ถ้าโชคดี ตาดีๆอาจได้ของดีราคาถูกสุดๆไปครอบครอง ร้านที่เห็นหลายคนชอบมาก(รวมทั้งเราด้วย) เพราะถูกและของเยอะคือ ROSS, Burlington, TJ Max ค่ะ

เครื่องนุ่งห่มที่อยากแนะนำให้ขนไปจากไทยคือ พวกกางเกงใน บรา จริงๆที่อเมริกาก็มีค่ะ แต่ร้านขายของที่แนะนำไปมักจะมีแต่ไซต์ใหญ่นะคะ ไซต์เล็กมีบ้าง แต่มีให้เลือกไม่มากนัก และถ้าเทียบกับบ้านเรา บ้านเราถูกและมีให้เลือกเยอะกว่ามากๆ ดังนั้นควรเตรียมไปเยอะๆค่ะ

สรุปอีกทีของที่ไม่ต้องเอามาเยอะ คือมีพอใส่แล้วมาซื้อเพิ่มเอาที่นี่ คือเสื้อผ้า เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ถุงเท้า อะไรที่เกี่ยวกับการกันหนาวมาซื้อที่อเมริกาดีกว่าค่ะ เอามาแค่พอใส่เดินทาง โดยเฉพาะคนที่คิดว่าจะมาทำงาน พอได้เงินที่หามาจากที่นี่จะยิ่งรู้สึกว่า ของมันถูกและคุณภาพดีค่ะ

ควรขนมา: กางเกงใน, บรา, สายเสื้อใน, เครื่องประดับเก๋ๆ แฮนด์เมด, Jewelry ต่างๆ

ไม่น่าขนมา: เสื้อผ้า, เสื้อยืด, กางเกงยีนส์, รองเท้าผ้าใบ, ถุงเท้า, เสื้อกันหนาว และเครื่องกันหนาวต่างๆ

ยา

ใครมีโรคประจำตัวหรือยาบางอย่างที่ต้องใช้ประจำควรต้องเตรียมไป จริงๆที่นั่นก็หาซื้อยาได้ไม่ยาก แต่บางอย่างเช่นแก้หวัด คัดจมูกเอาไปจากบ้านเรา ไม่กี่สิบบาท ที่โน่นแพงกว่าแน่นอน แต่ใครที่กังวลว่าซื้อยาที่อเมริกาต้องมีใบสั่งแพทย์เสมอ ไม่จริงค่ะ ยาทั่วไป แก้หวัด ปวดหัว ลดไข้ วิตามินทั้งหลาย มีขายเยอะแยะหาง่าย แต่ถ้าไม่ใช้ประเภทยาพื้นๆ ก็เตรียมไปดีกว่า หาหมอที่นี่มันแพงค่ะ

ใครที่ติดยาพื้นบ้าน ยาดม ยาหม่อง สมุนไพรไทยก็เอาไป เพราะซื้อที่โน่นหายากมาก จริงๆก็พอมีร้านขาย แต่ของค่อนข้างเก่า บางทีหมดอายุแล้ว ดังนั้นควรเอาไปดีกว่าค่ะ ตอนมาตัวเองก็เอายาพื้นบ้านมา(ควรติดฉลากให้เรียบร้อย)  เพราะพวกยามันไม่หนัก ไม่กินที่มาก

อเมริกาเป็นเจ้าแห่งวิตามินและอาหารเสริม ดังนั้น ไม่ต้องคิดเรื่องขนพวกนี้มาเลยค่ะ ที่นี่ดูและคุณภาพดีกว่ามากๆ อาหารเสริมราคาแพงส่วนใหญ่ในเมืองไทยก็มักจะนำเข้ามาจากอเมริกานั่นแหละค่ะ และถ้าใครติดแบรนด์ Amway ก็สามารถ register เพื่อซื้อสินค้า online ได้ ที่นี่ค่ะ (ฟรี)

ควรขนมา: ยาประจำตัว, ยาหม่อง, ยาพื้นบ้านต่างๆ

ไม่น่าขนมา: พวกวิตามิน, อาหารเสริมต่างๆ

ข้าวของเครื่องใช้ทั่วๆไป

ส่วนข้าวของเครื่องใช้ทั่วๆไป สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม พวกนั้นไม่ต้องขนมาให้หนัก เพราะอย่าลืมเราสามารถขนกระเป๋าได้แค่สองใบ ใบละไม่เกิน 50 lbs. ของพวกนั้นสามารถซื้อที่นั้นได้ค่ะ ไม่แพง

ส่วนเครื่องสำอางค์ ครีมบำรุงผิวก็หาซื้อที่นี่ได้ง่ายมาก ไม่แพงมาก ใครที่ชอบแบรนเนมฝรั่งอยู่แล้วยิ่งน่าจะชอบมาก เพราะซื้อที่นี่ถูกกว่า และมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อกว่าบ้านเรา แนะนำให้ไปที่ CVS เพราะมีเกือบทุกยี่ห้อ ลองสินค้าได้ตามชอบใจ ไม่มีพนักงานคอยกวนใจ

แต่สำหรับคนที่ติดแบรนด์ที่ไม่ใช่ของฝรั่ง หรือแบรนด์อเมริกัน เช่นญี่ปุ่น ก็เอามาจากเมืองไทยก็ดีค่ะ เพราะที่นี่แบรนด์ญี่ปุ่นหายาก หรือหาไม่ได้ แต่ถ้าใช้ ชิเชโด ก็ไม่มีปัญหาเพราะมีตามห้างทั่วไป

ควรขนมา: เครื่องสำอางค์หรือครีมบำรุงผิวยี่ห้อที่ไม่ได้ผลิตในอเมริกา, แป้งเด็กแคร์

ไม่น่าขนมา: สบู่, ครีมบำรุงผิว, เครื่องสำอางค์, ยาสีฟัน, ยาสระผม, ครีมล้างหน้า, ผ้าอนามัย

คอนแทคเลนส์

นอกจากนั้นใครใช้คอนแทคเลนส์ ควรเอามาค่ะ ที่นี่มี แต่หาร้านยาก ซื้อก็ยุ่งยากกว่าซื้อบ้านเรา ส่วนน้ำยาล้างไม่ต้องหาซื้อง่ายตามร้านขายยาทั่วไป

ควรขนมา: คอนแทคเลนส์, บิ๊กอาย(ถ้าใช้), ขนตาปลอม

ไม่น่าขนมา: น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์

ของเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, มือถือ

อีกอย่างที่น่าจะเอาไปด้วยคือ แผ่นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆที่อาจต้องใช้ กันไว้เผื่อเครื่องคอมเสีย ต้องลงโปรแกรมใหม่ หรือบางคนบอกก็ไม่มีคอม ไม่มีโน๊ตบุค แต่ติดไปก็ดี เพราะในอนาคตคงอาจต้องใช้ค่ะ

นอกจากนี้ ถ้าตั้งใจจะมาซื้อคอมพิวเตอร์ที่นี่ (คอมที่นี่จะถูกกว่าเมืองไทย) แล้วพิมพ์สัมผัสภาษาไทยไม่คล่อง ก็ควรจะเอาคีย์บอร์ดไทยมาด้วย เพราะแน่นอนว่าคอมพิวเตอร์ที่นี่มีแต่ปุ่มตัวอักษรภาษาอังกฤษค่ะ อ้อ ใครจำเป็นต้อง write DVD ก็เอาแผ่นเปล่าติดมาด้วยก็ดีค่ะ เพราะที่นี่ค่อนข้างแพงเหมือนกัน

นอกจากนี้ ใครมีไอโฟน unlocked ก็เอามาโลดค่ะ ที่นี่มีซิมการ์ดขายที่ Walmart ราคาแค่ 25 เหรียญ ทุกอย่าง unlimited (talk, text, web) ค่าบริการรายเดือนตกเดือนละ $40 นิดๆเท่านั้น (AT&T), หรือ  AT&T GoPhone Sim Card เพียง 9 เหรียญกว่าจ่ายแบบเติมเอาเองเมื่อต้องการใช้ เหมาะกับการมาท่องเที่ยวในระยะสั้นๆค่ะ (รายละเอียดเพิ่มเติม จะตามมาในไม่ช้าค่ะ)

ควรขนมา: แผ่นโปรแกรมคอมพิวเตอร์(ระวังลิขสิทธิ์), คีย์บอร์ดไทย, แผ่นDVDเปล่า, ไอโฟน unlocked

สัมภาระนอกเหนือจากนี้ หากใครนึกออกก็ช่วยกันแชร์ประสบการณ์ได้เลยนะคะ จะได้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังจัดกระเป๋าเดินทางมาอเมริกาค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก:http://plew.wordpress.com/ http://believeactgo.blogspot.com, http://bargainwonderland.blogspot.com, www.curvatude.com,
www.simalixia.com, http://www.mensfitness.com, www.forbes.com



Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *