เปิดประวัติ ฮาโลวีน วันที่โลกคนเป็นกับโลกคนตายมาบรรจบกัน

ฮาโลวีน ในอดีต เป็นเทศกาลที่นิยมเฉพาะในประเทศฝั่งตะวันตกเท่านั้น แต่ปัจจุบันวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองในวันฮาโลวีนได้ขยายอิทธิพลไปทั่วโลก จะเห็นได้ว่าช่วงหลายปีหลังมานี้ประเทศในแถบเอเชียก็มีการจัดงานฮาโลวีนอย่างยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี หรือแม้แต่ในประเทศไทยเอง ก็มีคนแต่งคอสเพลย์เป็นผีต่างๆ ออกมาเดินเล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าเทศกาลนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมทุกคนถึงต้องลุกขึ้นมาแต่งตัวเป็นผีกันด้วย บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเทศกาลปล่อยผีสุดเฮี้ยนอย่าง “ฮาโลวีน” กัน  

ประวัติฮาโลวีน จากความเชื่อทางศาสนา สู่เทศกาลสุดสนุก

ฮาโลวีน เป็นเทศกาลเก่าแก่ที่มีมาช้านาน โดยเชื่อกันว่าประวัติ ฮาโลวีน น่าจะมีจุดกำเนิดมาจากเทศกาล Samhain ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองก่อนเข้าสู่วันปีใหม่ของชาวเซลท์ (Celt) ตั้งแต่เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน โดยชาวเซลท์เชื่อว่าคืนวันที่ 31 ตุลาคม เป็นช่วงเวลาที่เส้นแบ่งระหว่างโลกคนเป็นกับโลกคนตายจะจางหายไปชั่วคราว และวิญญาณของคนตายก็จะกลับมาสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง ซึ่งหากเป็นวิญญาณของคนที่เรารักและคิดถึง ก็คงเป็นเรื่องดีที่จะได้มีโอกาสพบหน้ากันอีกครั้ง หรือบอกลาอย่างเป็นทางการ แต่หากเป็นวิญญาณร้ายหรือภูตผีต่างๆ ก็คงไม่มีใครอยากเจอ ชาวบ้านจึงปลอมตัวด้วยการเอาขี้เถ้ามาทาหน้าให้เป็นสีดำ แต่งตัวด้วยหนังสัตว์ และรวมตัวกันก่อกองไฟขนาดใหญ่เพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจ 

ต่อมาในศตวรรษที่ 9 ศาสนาคริสต์ได้ถูกเผยแพร่ไปยังดินแดนของชาวเซลท์ และค่อยๆ รวมเข้ากับประเพณีดั้งเดิม จึงมีการกำหนดให้วันที่ 1 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวัน All Saints’ Day หรือ All-Hallows Day เพื่อระลึกถึงนักบุญผู้ล่วงลับ ในคืนก่อนหน้าจึงเรียกว่าAll-Hallows Eve ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวันฮาโลวีนในภาษาอังกฤษนั่นเอง ส่วนพิธีกรรมก็ยังคงคล้ายเดิม มีการจุดกองไฟ เดินขบวนพาเหรด สวมหน้ากากและแต่งตัวเป็นภูตผีปีศาจเพื่อไม่ให้ถูกวิญญาณทำร้าย

ในช่วงแรกเทศกาลฮาโลวีนเป็นที่รู้จักเฉพาะในแถบยุโรปเท่านั้น แต่เมื่อชาวไอริชที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิก อพยพหนีความอดอยากมายังประเทศอเมริกาในช่วงศตวรรษที่ 19 ก็ได้นำเอาวัฒนธรรมเหล่านี้มาเผยแผ่ด้วย และกลายเป็นประเพณีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีการจัดให้เป็นวันหยุดประจำปี จัดงานปาร์ตี้เฉลิมฉลอง และเล่น Trick or treat กันอย่างสนุกสนาน 

Trick or treat กิจกรรมสุดฮิตของเด็กๆใน วันฮาโลวีน

สำหรับผู้ใหญ่คงจะสนุกกับการแต่งตัวเป็นผีต่างๆ ในวันฮาโลวีน แต่สำหรับเด็กยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิต นั่นก็คือ Trick or treat ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากในอดีตเด็กๆ ที่ยากจน จะเดินไปเคาะประตู ขอเงินและอาหารตามบ้าน โดยแลกกับการสวดอธิษฐานให้กับดวงวิญญาณที่พวกเขารัก ในวัน All Saints’ Day ส่วนในปัจจุบันเด็กๆ จะแต่งตัวเป็นผีและไปเคาะประตูตามบ้าน แล้วถามว่า Trick or treat ? หากเจ้าของบ้านเลือก Treat ก็จะยื่นขนมหรือลูกอมมาให้ แต่ถ้าเจ้าของบ้านเลือก Trick เด็กๆ ก็จะทำท่าผีหลอกหรือก่อกวน เพื่อให้เจ้าของบ้านยอมให้ขนม

Jack-o’-lantern ฟักทองแกะสลัก สัญลักษณ์ของ วันฮาโลวีน

จะสังเกตได้ว่าช่วงวันฮาโลวีน ร้างรวงต่างๆ หรือห้างสรรพสินค้ามักจะตกแต่งด้วยฟักทองสีส้ม ที่แกะสลักให้มีตา จมูก ปาก ดูคล้ายหน้าคน หลายคนคงจะสงสัยว่าฟักทองเกี่ยวอะไรกับวันฮาโลวีน ทำไมถึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลที่เกี่ยวกับผี เรื่องนี้สันนิษฐานกันว่าน่าจะมาจากนิทานพื้นบ้านของชาวไอริช เกี่ยวกับนักต้มตุ๋นขี้เมาที่ชื่อว่าแจ็ค เมื่ออายุขัยของเขาหมดลง ซาตานมารับวิญญาณเขา แต่เขากลับชวนซาตานดื่ม และหลอกให้ซาตานแปลงร่างเป็นเหรียญเพื่อจ่ายค่าเหล้า แต่พอซาตานตกลงแปลงร่างให้ เขาก็เก็บเหรียญใส่กระเป๋าคู่กับไม้กางเขน ทำให้ซาตานไม่สามารถคืนร่างได้ 

ต่อมาเขาปล่อยซาตานเป็นอิสระ แต่ให้ซาตานสัญญาว่าจะไม่มาหาเขาอีก 1 ปี ซาตานยอมทำตาม จนเมื่อครบกำหนดก็มาหาเขาอีกครั้ง แต่เขาก็หลอกซาตานซ้ำสอง โดยให้ซาตานปีนขึ้นไปเก็บผลไม้ จากนั้นแจ็คก็ทำสัญลักษณ์รูปไม้กางเขนไว้บนลำต้น ทำให้ซาตานลงมาไม่ได้ แจ็คจึงขอให้ซาตานสัญญาว่าจะไม่มาหาเขาอีก 10 ปี แต่ในที่สุดแจ็คก็มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน หลังเขาตายซาตานจึงไม่มารับวิญญาณของเขา และพระเจ้าก็ไม่รับเขาเข้าดินแดนสวรรค์ด้วยเช่นกัน แจ็คจึงทำได้เพียงถือตะเกียงที่ทำจากหัวผักกาด เดินร่อนเร่อยู่บนโลกมนุษย์ 

ชาวไอริชจึงเชื่อกันว่าหากนำหัวผักกาด หรือหัวมันฝรั่ง มาแกะสลักเป็นใบหน้าที่ดุร้าย และวางไว้บริเวณประตูหรือหน้าต่าง จะช่วยปกป้องตนเองและครอบครัวจากปีศาจ รวมถึงวิญญาณร้ายอย่างแจ็ค ต่อมาเมื่อชาวไอริชอพยพไปอเมริกา จึงเปลี่ยนมาใช้พืชพื้นเมืองที่หาได้ง่ายๆ อย่างฟักทองแทน และกลายเป็นสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แม้ว่าฮาโลวีนจะเป็นเทศกาลที่เกิดจากความเชื่อและความกลัว แต่ปัจจุบันก็กลายเป็นเทศกาลที่สนุกสนานสำหรับทุกเพศทุกวัย และถือเป็นงานรวมตัวครั้งใหญ่ของคนที่ชื่นชอบการแต่งคอสเพลย์ หรือแต่งตัวแฟนซี ทำให้เราได้เห็นผีในจินตนาการ ตัวละครหรือตัวการ์ตูนจากเรื่องต่างๆ ออกมาโลดแล่นในชีวิตจริง หลายคนแต่งตัวอลังการจัดเต็มมาก ยิ่งมีบรรยากาศตอนกลางคืนมาช่วยเสริม ก็เพิ่มดีกรีความสยองขึ้นอีกเท่าตัว ใครอยากสัมผัสประสบการณ์สุดหลอนแบบนี้ ก็ออกมาร่วมสนุกกันได้ในคืนวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีเลย

  ฮาโลวีน 2023 (Halloween)  ตรงกับ วันที่ 31 ตุลาคม 2023  ที่เที่ยวฮาโลวีน อีเวนท์ฮาโลวีน และ ปาร์ตี้ฮาโลวีน มาให้อินเต็มๆ ไปกับ วันปล่อยผี  แต่งผี เดินเล่นชิลๆ Trick or Treat ในงานกันได้เลยค่ะ! 

---

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ ฮาโลวีน

ถาม : วันฮาโลวีน คือ วันอะไร ?

ตอบ : วันฮาโลวีน คือเทศกาลเฉลิมฉลองที่จัดขึ้นในคืนก่อนวันสมโภชนักบุญของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก แต่ปัจจุบันการเฉลิมฉลองไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเฉพาะกลุ่มคริสต์ศาสนิกชนเท่านั้น ผู้คนหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา ในหลายประเทศ ก็มาร่วมสนุกสนานกับเทศกาลนี้ด้วย

ถาม : ฮาโลวีนมาจากประเทศอะไร ?

ตอบ : ฮาโลวีน มีต้นกำเนิดมาจากชาวเซลท์ (Celt) ชนเผ่ากลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่แถบยุโรป ซึ่งปัจจุบันคือไอร์แลนด์ อังกฤษ และตอนเหนือของฝรั่งเศส จากนั้นได้ขยายอิทธิพลมาถึงอเมริกาพร้อมกับการอพยพย้ายถิ่นฐาน จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่นิยมไปทั่วประเทศและทั่วโลกอย่างเช่นทุกวันนี้

ถาม : วันฮาโลวีน ภาษาอังกฤษ แปลว่าอะไร ?

ตอบ : Halloween มาจากคำว่า All Hallows Eve หรือ Hallowed Evening ซึ่งหมายถึงคืนก่อนจะถึงวัน All-Hallows Day หรือ All Saint’s Day ซึ่งเป็นวันสมโภชนักบุญของศาสนาคริสต์ ที่จะจัดงานเพื่อระลึกถึงนักบุญที่ล่วงลับไปแล้ว

ถาม : วันฮาโลวีนวันที่เท่าไหร่ ?

ตอบ : วันฮาโลวีนตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี

ถาม : สัญลักษณ์วันฮาโลวีนมีอะไรบ้าง ?

ตอบ : สัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน คือ Jack-o’-lantern หรือตะเกียงฟักทองที่แกะสลักเป็นรูปหน้าคน นอกจากนี้ยังนิยมตกแต่งบรรยากาศให้ดูน่ากลัวด้วยแมงมุม ค้างคาว โครงกระดูก โลงศพ หรือผีต่างๆ 

---

บทความที่เกี่ยวข้อง

ประสบการณ์ วันฮาโลวีน ในอเมริกา

วันฮาโลวีน วันนี้ที่เด็กๆ รอคอย

โอนเงินจากต่างประเทศมาไทย แบบไหนดี รวดเร็ว ปลอดภัยที่สุด ปี 2023

เปิดเคล็ดลับ เรียนภาษาอังกฤษ อย่างไรให้เก่งเร็ว ไม่มีพื้นฐานก็พัฒนาได้แบบก้าวกระโดด

10 เคล็ดไม่ลับ เที่ยวอเมริกาด้วยตัวเอง

เดินทางถูกใจกับ 10 เว็บไซต์หาตั๋วเครื่องบินในอเมริกา

---

GoGoAmerica.com เว็บรวมหลากหลายเรื่องราวน่ารู้ใน อเมริกา ทั้ง วัฒนธรรม อาหาร ชีวิตความเป็นอยู่ หางานอเมริกา สถานที่ เที่ยวอเมริกา สำหรับคนไทยที่มีเป้าหมายในอเมริกาไม่ควรพลาด